รมว.คลัง แจงกระทู้สภา ยันมาตรการในการช่วยเหลือโควิดรอบ2 เน้นการจับจ่ายใช้สอยที่จำเป็น ย้ำมีแนวทางรองรับผู้ที่ตกหล่น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม พรรคพลังประชารัฐ เรื่องมาตรการในการเยียวยาประชาชน จากผลกระทบของ covid-19 ตามมาตรการต่างๆ ว่า สำหรับมาตรการในการช่วยเหลือผ่านโครงการเราชนะ ในการระบาดของโควิด 19 รอบใหม่นี้ ทางกระทรวงการคลัง มีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่ไม่เข้าค่ายในการรับสิทธิ์ อาทิ การเป็นข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ การเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 การเป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกินกว่าที่กำหนด เป็นต้น โดยมองเป็นผู้มีระบบความคุ้มครอง ทางสังคม จึงไม่เข้าข่ายในการได้รับสิทธิ์ ซึ่งจะแตกต่างจากการเยียวยารอบที่ 1 โดยจะเป็นการคัดกรองกลุ่ม ผู้ที่มีรายได้น้อยส่วนเหตุผลที่ไม่จ่ายเป็นเงินสดนั้น เพื่อป้องกันการสัมผัส รวมถึงลดการเดินทางที่จะต้องไปเบิกถอนเงินสด และสิ่งสำคัญ คือ หลักการในการบรรเทาความเดือดร้อน ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนใช้จ่ายประเภทสินค้าและบริการที่มีความจำเป็น
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการร้องเรียน คือกลุ่มสมาร์ทโฟน ทางกระทรวงการคลัง ก็เปิดให้ลงทะเบียนได้ทางธนาคารกรุงไทย โดยในกลุ่มนี้ ก็จะใช้บัตรประชาชนในการแสดงตน และยืนยันตัวบุคคล ส่วนการใช้จ่ายเงินนั้น ก็จะใช้บัตรประชาชนในการใช้จ่ายผ่านเครื่อง EDC หรือเครื่องที่ใช้เสียบบัตรประชาชนก็จะสามารถใช้จ่ายเงินผ่านทางโครงการนี้ได้
“ณัฏพล”ย้ำบริหารจัดการศธ.ไม่รวบอำนาจ
นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.จังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย เรื่องการบริหารจัดการกระทรวงศึกษาธิการในการนำไปสู่การรวบอำนาจที่ถือว่าขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ย้อนแย้งกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการว่า กระทรวงศึกษาธิการจำเป็นต้องพัฒนาการศึกษาแบบบูรณาการเพื่อวางแผนร่วมกันในแต่ละจังหวัดได้ง่ายขึ้น ทั้งอาชีวะศึกษา การศึกษาสายสามัญ โรงเรียนเอกชนต่าง ๆ และระดับมหาวิทยาลัยซึ่งต้องสอดคล้องกันในเรื่องนโยบายตอบโจทย์ของจังหวัด เมื่อนโยบายหลักชัดเจนทุกหน่วยงานจะสามารถขับเคลื่อนยกระดับรายได้ผ่านระบบการศึกษาได้ ดังนั้น การวางแผนการบูรณาการ ด้านการศึกษาถือเป็นการทำความเข้าใจระหว่างผู้บริหารเพื่อนำความคิดที่แตกต่างกัน มารวมพลัง โดยสำนักงานเขตพื้นที่ได้วางแผนและทำงานอย่างหนักพร้อมย้ำว่า ไม่ใช่การรวบอำนาจจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เพื่อให้เห็นภาพชัดว่า จะสามารถพัฒนาการศึกษาไปในรูปแบบใดที่ผ่านมาโรงเรียนอาจจะไม่ได้คุณภาพตามที่กำหนดไว้ จึงจำป็นต้องออกคำสั่งนี้ เพื่อเป็นคำสั่งตั้งคณะทำงานติดตามงานที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้ดำเนินการมาอย่างหนัก โดยคำนึงถึงผู้อำนวยการสถานศึกษาครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ที่ต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและเป็นประโยชน์มากที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news