@จังหวะ ฝ่ายการเมืองรัฐบาล กำลังรอสัญญาณสถานีถัดไปก่อนเลือกตั้ง จะมีการ “ปรับครม.” หรือจะเอายังไงกันต่อ จาก “นายกฯลุงตู่”
ที่ยามนี้ ขอโฟกัสเรื่องการบ้าน แบบ ทำงาน ทำงาน ทำงาน แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์น้ำท่วม หรือ จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่จังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาปืนและยาเสพติด มี “นายกฯลุงตู่” นั่งหัวโต๊ะ และเพิ่งมีการประชุมและออก4มาตรการ รองรับกับนโยบายการประกาสงครามยาเสพติดและอาวุธปืน ทั้งเรื่องการกวาดล้างปราบปรามเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ โดยถูกยกเป็น วาระแห่งชาติ ออกมาหลายวันก่อน (12ต.ค.) ท่ามกลางเสียงวิจารณ์วิธีการ “ตั้งคณะกรรมการ” ในการแก้ปัญหา
@ที่หลังการประกาศมาตรการไม่กี่วันถัดมา พลันเกิดเหตุการณ์ที่ถือเป็นการท้าทายกับนโยบายของ “นายกฯลุงตู่” เกิดขึ้นโดยเกิดเหตุ (17ต.ค.) แก๊งยาเสพติดที่รัตภูมิ สงขลา ระดมกำลังร่วม 20 คน นำรถมาล้อมรถ อส. ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัด ที่กำลังปฏิบัติการ “ล่อซื้อ” อ้างเป็นตำรวจในพื้นที่ สั่งให้ถอดเสื้อ ปล้นเอายาบ้าของกลาง 10 มัดจำนวน20,000เม็ด ปืน 5 กระบอก รถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ หลบหนีไป ที่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย
@ไม่แต่เท่านั้น วันนี้ (20ต.ค.) ยังมี “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ยังออกช่วยย้ำหัวตะปูอีกเคส ที่โยงประเด็นยาเสพติด และ อาวุธปืน ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจ เข้าไปเกี่ยวข้อง โดย “อัจฉริยะ” ลงทุนทำชาร์ท มาเปิดทำการแถลงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมีการแฉข้อมูล มีการออกบัตรให้ขบวนการค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม ที่พัวพันคดีอาญาถึง 8 คดี เพื่อเอาไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ว่า เป็นคนใต้สังกัดของตำรวจนายนี้ พร้อมมีไฟล์วิดีโอที่มีการโชว์หลักฐาน อีกทั้งเมื่อผู้ต้องหาเหล่านี้ถูกจับกุม ก็จะสั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบทำสำนวนคดีของบุคคลที่ถือบัตรดังกล่าวเอง เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาพ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง โดยเรียกรับผลประโยชน์จากบุคคลเหล่านี้
@โดย “อัจฉริยะ” ยังอ้างว่า ยังมีคลิปเสียงพ่อค้ายาเสพติดที่ถูกจับคดีอาวุธปืน 33 กระบอก พูดคุยกับอดีตตำรวจมาเลเซียที่ค้ายาไอซ์และอุ้มนักธุรกิจมาเลเซียไปลาว ซึ่งยืนยันว่ามีตำรวจช่วยเหลือล้มคดีให้ และสื่อประเทศมาเลเซียยังเคยนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับขบวนการผิดกฎหมาย
และช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียิงตำรวจ สภ.สุไหงโกลกเสียชีวิต ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่า ผู้ต้องหาถูกชี้ตัวแล้ว แต่กลับถูกดึงชื่อออกจากสำนวนและไม่มีการดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งผู้ที่ออกใบอนุญาตอาวุธปืนให้กับคดีนี้และพ่อค้ายาเสพติด ก็มีความเกี่ยวข้องกับตำรวจรายนี้
รวมจำนวนอาวุธปืนที่ออกให้ขบวนการยาเสพติดกว่า 500 กระบอก นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า ส.ส. นักการเมืองชื่อดังระดับประเทศอีก 2 คน พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด และภรรยาของตำรวจคนนี้ก็เกี่ยวข้องกับขบวนการทั้งหมดด้วย เพราะรู้จักสนิทสนมกับผู้ต้องหา และว่า วันที่ 24 ต.ค. ตนจะไปเปิดโปงขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศไทย ที่กองทัพเรือ ซึ่งมีทหารเรือ ตำรวจภูธรภาค 4 ระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
@โดยในประเด็นที่ “อัจฉริยะ” มาแถลงนั้น ปรากฏว่าก่อนหน้าเมื่อวาน (19ต.ค.) มีรายงานผบ.ตร.มีหนังสือคำสั่ง ตร. เลขที่ 463/2565 ลงวันที่ 19 ต.ค. เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ให้” ผู้การนราธิวาส” ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ. โดย มีรายงานว่า ผบ.ตร.ได้ลงนามคำสั่งตั้งแต่ช่วงเย็น และอาจมีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนรื้อคดีใหม่ เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมเป็นไปด้วยความโปร่งใส…
@เรียกว่ามาแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบทั้งเหตุการณ์และข้อมูลที่ยังจะทยอยถูกเปิดมาอีกเรื่อยๆ ในสถานการณ์ปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน นับตั้งแต่ “นายกฯลุงตู่” ประกาศสงครามยาเสพติดและอาวุธปืน ที่ให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ ตำรวจ กองทัพ ดำเนินการ
และ กระทรวงมหาดไทยของ “บิ๊กป๊อก” มท.1 เองก็เพิ่งแถลงผลงานการกวาดล้างในหลายพื้นที่ในแต่ละภาค ไปวันก่อน (11ต.ค.) ที่ด้านหนึ่ง ย่อมส่งผลกระเพื่อมกับขบวนการยาเสพติดที่โยงใยกับกลายฝ่าย แต่อีกด้านหนึ่งถูกมองถึงเอฟเฟ็กต์ที่ส่งผ่านการประสานงานของฝ่ายรัฐ
ระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ กับ ตำรวจ อย่างที่เกิดกรณี กองกำลังติดอาวุธ20นายอ้างเป็นตำรวจปล้นยาเสพติดและอาวุธปืนเจ้าหน้าที่อส.ที่กำลัง “ล่อซื้อ” ที่เคสนี้อีกด้านหนึ่งถูกมองเป็นการ “ลูบคม” เย้ยกับนโยบายประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาล อย่างที่ “ตู่ จตุพร-ทนายนกเขา” ได้ที
ออกมาช่วยขย่มไปที่ “นายกฯลุงตู่” ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะทำให้ “นายกฯลุงตู่” เสียหน้า เพราะเป็นการ ท้าทายวาระสงครามยาเสพติดโดยตรงเป็นการตอกย้ำความไร้ประสิทธิภาพ ไม่มีน้ำยา นายกฯควรรีบให้ตำรวจปปส.ลงพื้นที่ สั่งการตรวจสอบทันที และเสนอให้มีการตรวจทรัพย์สิน ปปส. สังคายนาทุกหน่วยเกี่ยวข้อง โดยเชื่อว่า จะสกัดเส้นทางฟอกเงิน หยุดขบวนยาเสพติดได้ .
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews