มีความน่าสนใจในจังหวะปะเหมาะอย่างบังเอิญ ที่ เกิดเหตุ(26ต.ค.) ตำรวจนครบาลนำกำลังบุกจับผับลับย่านเจริญราษฎร์เปิดเป็นร้านล้างรถบังหน้า พบนักเที่ยวทั้งชายและหญิงส่วนมากเป็นชาวจีนรวม 237 ราย และคนไทย 29 ราย พร้อมยาเสพติดเคตามีน และแฮปปี้วอเตอร์ จำนวนมาก
โดยพบภายในยังมีการเปิดเป็นบ่อนมีระดับ แถมรถหรูจอดอยู่จำนวนมากจนต่อมามีการเด้งดึ๋ง ผู้กำกับสน.ยานนาวา หลังก่อนหน้า(23ต.ค.)เกิดเหตุตำรวจบุก ผับดังที่พัทยา แล้วเจอ“นายทุนจีน”ขัดขวางอ้างมีการเคลียร์ผู้ใหญ่ในพื้นที่แล้ว ทั้งที่ผับดังกล่าวเคยถูกบุกจับมาแล้วเมื่อต้นปี โดยยังคงมีการพบร่องรอยการลักลอบเสพยาเสพติด ที่ต่อมา “เฮียชู” “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์”ผู้เชี่ยวชาญด้านแวดวง “ธุรกิจสายดาร์ก”จอมแฉออกมา“ชี้เป้า”(26ต.ค.)ว่ากรณี “ผับลับคนจีน”หรือ “ผับ0เหรียญ”นี้ “ไม่ธรรมดา”ในปรากฎการณ์ การเติบโตของ“อาณาจักรธุรกิจสีเทา”ของ “กลุ่มคนจีน”ที่ใช้ “ช่องโหว่” จุดอ่อน ของประเทศไทยทั้งข้ออ่อนกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ เป็น “อัตราเร่ง”การขยายการเติบโต
และยังออกมาโพสFBล่าสุด(27ต.ค.) ว่า คลิปลับ บ่อน+ผับอัพยา จีน หากไม่ตั้ง “ศูนย์ปรามปรามอาชญกรรมจีน”อย่างที่ตนแนะนำไป จะต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับ “แก๊งกุมารมังกรจีน” เมืองไทยคือเป้าหมายหลัก เพราะความอ่อนแอของระบบราชการคอร์รัปชั่น ต่อไปจะเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมจีนที่แฝงตัวเข้ามาทุกรูปแบบ พร้อมอธิบายคลิป“ผับอัพยา”ว่า ยังเป็น “บ่อนสมบูรณ์แบบ”สภาพหรูหรา อุปกรณ์ โต๊ะ คอมพิวเตอร์ครบครันอย่างกับบ่อนมาเก๊าคนเล่นพูดภาษาจีน พนักงานเป็นคนจีน ที่โต๊ะกับอุปกรณ์ถูกขนออกไปเพียง 1 วัน ก่อนตำรวจบุกจับ เพราะมี “พรายกระซิบ”ไม่งั้นงานนี้ป่นปี้มากกว่าเดิม เพราะครบวงจรทั้ง บ่อน ผับ ยา สถานที่แบบนี้เป็นแหล่งอาชญากรรมซ่องสุมของคนจีนโดยเฉพาะทั้งเสพ ทั้งค้ายาเสพติด โดยแยกออกจากคนไทยเพื่อให้แน่ใจว่าปิดปากได้ 100% และว่า คลิปเด็ดยังมีอีกมากทั้งดูด ทั้งดมในผับ ที่อ้างว่า ไม่มีหลักฐาน เดี๋ยวจัดให้ เรื่องเปิดดึกเรื่องเล็ก แต่เล่นขายยาในเมนู ทำอย่างกับในหนัง Narcos มันมากไป และว่าเจ้าหน้าที่ อย่าไปหลงเงินหยวนมากนัก ตนตั้งคำถาม มาเป็น 10 ปีแล้ว ว่ากฎหมายไทย ใช้ไม่ได้กับคนต่างชาติหรือ?
เรียกว่าเหตุการณ์ทลาย “ผับลับ”และการออกมาชี้เป้า “จุดอ่อน” ทั้งในมิติ “กฎหมาย” และ “ผู้บังคับใช้กฎหมาย”จนปล่อยให้ “ธุรกิจสีเทา”ที่มีคนต่างประเทศมาขยายอาณาจักร ของ “เฮียชู”บังเอิญมาในจังหวะที่บังเอิญ กำลังมีการวิจารณ์ถึง กฎหมายที่สนับสนุนธุรกิจที่คนต่างด้าวจะเข้ามาประกอบ “ธุรกิจสีขาว”บนดิน แบบถูกต้อง อันเป็นหนึ่งใน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของ “รัฐบาลลุงตู่”กับการมี “ออฟชั่น”จูงใจผ่าน “กฎหมายการได้มาซี่งที่ดินที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว”โดย วันก่อน(25ต.ค.) “ครม.ลุงตู่”เพิ่ง อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ซึ่ง “ร่างกฎกระทรวง”นี้ จะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ ชาวต่างชาติที่ลงทุนในธุรกิจกิจการในไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท สามารถ ซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ 1 ไร่เป็นที่ดินภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล โดยเป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง4 ประเภท คือ 1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และ 4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
น่าสนใจติดตาม ว่า กฎหมาย “ขายที่ดินให้ชาวต่างชาติ”ฉบับนี้ นอกจาก ประเด็น กระแสผลกระทบกับ“รัฐบาลนายกฯลุงตู่” จากร่องรอย การก่อแรงกระเพื่อมการเมืองหลายฝ่าย ที่คัดค้าน ไม่เห็นด้วย ที่เริ่มออกมาส่งสัญญานและ แอ๊คชั่น ย้อนไปในอดีต เมื่อครั้ง เคยมีม็อบต่อต้าน “กฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจ11ฉบับ” ที่ถูกโจมตีผ่านวาทกรรม “กฎหมายขายชาติ11ฉบับ”ในยุคการ ผลัดรัฐบาล จาก “รัฐบาลชวน”ต่อเนื่องถึง “รัฐบาลทักษิณ”เมื่อ20ปีก่อน ที่ กฎหมายขายที่ดิน ให้ต่างชาติ ในหลักเกณฑ์เดียวกันนี้กลายเป็น1ในกฎหมายที่ถูกต่อต้านคัดค้านจาก “ม็อบ”สมัยนั้น …ในขณะอีกด้านหนึ่ง ก็ มีหลายฝ่าย แสดงความเป็นห่วง กับการชั่งวัด ใน ความรอบคอบกับ ผลกระทบระยะยาว แบบ “คู่ขนาน” ที่ล้อไปกับภาพ “จุดอ่อน”ของระบบฟังค์ชั่นทั้งกติกาและกรรมการที่อาจยังไม่พร้อมในการควบคุมจัดการ อย่างที่ มีภาพปมปัญหา “อาณาจักรธุรกิจสีเทา”ของชาวต่างชาติกรณี“ผับลับ0เหรียญ”ที่ดำรงอยู่และเติบโต บนช่องโหว่จุดอ่อนของกฎหมาย และ การคอรัปชั่น ในประเทศไทย ที่ “เฮียชู”ออกมากระตุกต่อมเตือน ผ่าน “หนังตัวอย่าง”.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
