การประชุมสมัยสุดท้ายของ สมาชิกสภาผู้ราษฏรชุดที่ 25 สภาล่าง ของ รัฐสภาจำนวน 500 คน หรือสภา 500 จากสส.เขตพื้นที่ 350 คน สส.บัญชีรายชื่อ 150 คน รวม สส.ปัดเศษ บ้างก็เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย บางคน ก็เป็นตัวแทนกลุ่มทุนการเมือง เลือก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี พร้อมกับ 250 สว.ลากตั้ง เทเสียงสนับสนุน..
จากวันนี้ถึง 24 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นวันครบเทอม4ปีของสมาชิกสภาล่าง จับยามสามตา ดูตามอาการของ”ลุงตู่”ยังจะอยู่ต่อไปในตำแหน่ง ให้คุ้มค่า คุ้มเวลา จนครบวาระ กระทั่งกฏหมายลูก 2 ฉบับก็จะยืดให้สุดตัว..
สภาล่าง โค้งสุดท้ายก่อน การเลือกตั้งใหญ่ ต่อจากนี้ร้อนแรงเป็นปรอทแตก ต่างขั้ว ต่างพรรค ต่างกลุ่ม ต่างวางจังหวะจะโคน ชิงเหลี่ยมชิงความได้เปรียบกันทางการเมือง ทุ่มเท ชิงความนิยมจากประชาชน ชนิดไม่ยอมกันทั้งในฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองและฟากพรรคฝ่ายค้าน
โดยเฉพาะพรรคที่มีกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดเดียวกัน อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และ พลังประชารัฐ ที่กำลังขับเคี่ยวชิงเรตติ้งด้วยปม “พรบ.กัญชา”..
นับประสาอะไรกับ “พรบ.สุราก้าวหน้า” ของก้าวไกล พรรคต่างขั้วการเมืองจะปล่อยให้กลุ่มใดมาเบียดบังแบ่งการตลาดทุนการเมืองพรรค ของ”กลุ่มผลิตสุรายักษ์ใหญ่”ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลเกือบทุกพรรคอยู่แล้ว ที่ “รัฐบาลลุงตู่” ถึงขั้น ชิงจังหวะ ลักหลับ ประกาศ “กฏกระทรวงผลิตสุรา” ปาดหน้าไปช่วงคืนก่อน “พรบ.สุราก้าวหน้า” เข้าวาระการประชุมสภาฯ
การเมือง เป็นเรื่อง ผลประโยชน์ ชัดเจนขึ้น ตามทฤษฏี จากคดีความล่าสุด “ธุรกิจจีนสีเทา” แม้ภาพใหญ่จะเป็นเรื่อง ความเสียหาย หรือ ผลประโยชน์ ของประเทศชาติ หากแต่ในเชิงลึกเป็น ปฏิบัติการตีหม้อข้าว “นักการเมืองคนดัง” จนทัพแตก ต้องหนีไปขอความช่วยเหลือ นายเก่า ยังต่างประเทศ เช่นเดียวกับ “กลุ่มการเมืองปากน้ำ” เพียงคิดนอกใจตีจากหวังเข้าซบพรรคดังย่านบุรีรัมษ์เลยถูกคดีสกัดแบบบีบก็ตายคลายก็รอด..
บริบทที่เกิดขึ้น ตั้งแต่การเมือง ธุรกิจ อาชญากรรมกระทั่งสังคมและการต่างประเทศไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ด้วยปฏิสัมพันธ์แต่ละด้านชนิดเต็มคาราเบล หาก “นักการเมืองสีเทา” ยังต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลจากกลุ่มธุรกิจเข้าทุ่มซื้อนักเลือกตั้งเข้าสังกัดเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งและอำนาจในการบริหารบ้านเมือง
ตั้งแต่กระบวนการกว้านซื้อตัวนักการเมืองเป็นรายตัว เป็นรายกลุ่ม กระทั่ง ซื้อยกพรรค ชนิด ยุบทิ้ง ซึ่งว่ากันในวงการการเมืองก่อนฤดูกาลเลือกตั้งใหญ่นี้ค่าตัวพุ่งสูง ถึงหัวละ 30 ล้านบาท ไม่นับรวมค่าใช้จ่ายรายเดือนเริ่มต้นตั้งแต่หลักต่ำสุด 30,000 บาทถึงหลักแสนต่อคนต่อเดือน ราคาขึ้นอยู่กับชนิดของสส.ดาวฤกษ์ เป็นสส.ได้รับการเลือกตั้งผูกขาดด้วยตัวเองหรือ สส.ดาวเคราะห์ เป็นสส.ที่ต้องพึ่งพาค่าใช้จ่ายหรือความนิยมของพรรค
ส่วนสส.นกแลหรือสส.ที่ได้รับการเลือกตั้งบ้างสอบตกบ้าง ราคาต่ำสุด บางพรรคมีการบริหารจัดการจ่ายยกแก๊งเป็นกลุ่มโควต้าตามอัตราส่วนต่อตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่นับรวมโบนัสหรือแจกกล้วยในวาระลงคะแนนเสียงสนับสนุนญัตติพระราชบัญญัติสำคัญด้านการเงินหรืองบประมาณที่เสี่ยงต่อความเป็นอยู่หรือไปของรัฐบาล..
“ธุรกิจสีเทา”จึงเป็นธุรกิจผิดกฏหมายใช้เงินสดหมุนเวียนเหมาะกับ ทุนการเมือง สามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ตั้งแต่การซื้อสิทธิ์ขายเสียงจนถึงต่างตอบแทนผลประโยชน์ในเชิงนโยบาย ธุรกิจจีนสีเทา ยังไม่จบ “ธุรกิจมืดอินเดีย”กำลังขยายฐานในสังคมตลาดสด..
เฉกเช่นเดียวกับ“กฏหมายขายชาติ”อาจทำให้ “ลุงตู่” ความนิยมแผ่วปลายหลังผลสำรวจเป็นแชมป์ภาคใต้และเป็นอันดับสองของในพื้นที่เมืองหลวงรองจาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แห่งพรรคก้าวไกล นอกเหนือจากเสียงนินทาคัดค้าน “ลุงตู่” ขายชาติ อาจรู้หรือรู้ไม่เท่าทัน “กลุ่มนักการเมืองสีเทา” ผลักดันอยู่เบื้องหลัง “กลุ่มธุรกิจจีนสีเทา” ต่อยอดเปิดช่องให้ซื้อที่ดิน 1 ไร่เพื่อแลกกับการลงทุนเพียง 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยจากธุรกิจมืดผิดกฏหมายครบวงจรค้ายาเสพติด หนีภาษีหรือธุรกิจศูนย์เหรียญที่คนไทยไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยยังกลับทำให้สังคมประเทศชาติเสียหาย
หรือ “กฏหมายขายชาติ” อาจเป็นวาระทิ้งทวนต่างตอบแทนท้ายสมัยประชุมสส. เพิ่มมูลค่าแปลงที่ดินให้ “กลุ่มทุนการเมืองผลิตสุรายักษ์ใหญ่” และ “กลุ่มบริษัทด้านการเกษตรครบวงจร” ผู้ถือครองที่ดินนับหลายแสนไร่ยกระดับราคาที่ดินสูงขึ้นแต่ปิดโอกาสคนจนไร้ที่ทำกิน ขาดที่อยู่อาศัยและทำให้คนไทยขายที่ดิน..
ทั้งหมดทั้งมวลเป็นบริบทของ ธุรกิจการเมือง หากแต่สภาพภายใน พรรคพลังประชารัฐ เพลานี้ค่อนข้างชัดเจนตามการวางหมากของแชมป์รัฐมนตรียาวนานสุด “เซียนสมศักดิ์ เทพสุทิน” และ นายทุนกลุ่มสามมิตรสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมสรรพกำลัง ยังคงยึดที่มั่นพปชร.พรรคเดิม เสนอ “ลุงตู่” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพร้อมกับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณและอาจจะมีตัวสำรอง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.
ซึ่งกลุ่มสามมิตรคาดหมายจะมีสส.ทั้งในพปชร.และต่างพรรคร่วม60คนพอที่จะผนวกกับ250สว.ชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งใหญ่ช่วงต้นปีหน้า..
“งานนี้ใหญ่บอกให้”ลุงตู่”แต่งตัวรอเลยนะวิ..”
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews