นับถอยหลังวาระของสภา และรัฐบาลนี้ เหลือไม่ถึง 150 วันแล้ว บรรดานักการเมือง นักเลือกตั้ง ต่างเคลื่อนไหวกันแบบฝุ่นตลบ ขยับขยาย ย้ายพรรค ย้ายบ้านใหม่
เตรียมลงหลักปักฐานให้มั่นคง ก่อนลุยทำพื้นที่เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่ กกต.เคาะไทม์ไลน์เอาไว้เบื้องต้น ประมาณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2566 แต่อีกความเคลื่อนไหวหนึ่งก็น่าสนใจไม่น้อยเมื่อ “เสี่ยเอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ผู้นำค่ายปากน้ำ ที่มี ส.ส.พลังประชารัฐอยู่ในสังกัด 7 ราย แถมเคยโหวตไม่ไว้วางใจ มท.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มาแล้ว และมีภาพคู่ลูกสาวไปกินข้าวกับครอบครัว”อนุทิน ชาญวีรกุล” จนโดนคอการเมืองคาดเดาว่าจะย้ายบ้าน โดนปปช.ชี้มูลความผิด คดีทุจริตเงินก่อสร้างเมรุ หลายวัด ใน จ.สมุทรปราการ สมัยเป็นนายก อบจ.ในเวลาคล้อยหลังเพียงไม่กี่วัน
จนกลายเป็นประเด็นร้อน ให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธาน ปปช.ที่ถูกมองเป็นเด็กในคาถาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องออกมาชี้แจงและจากคำชี้แจงของ ประธาน ปปช.ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อหลุดปากว่า มีเรื่องสำคัญที่รอเข้าที่ประชุม เป็นคดีใหญ่ คดีสำคัญ เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญแต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ก็ยิ่งชัดเจนไปกันใหญ่ว่า เกมเช็คบิล เตะตัดขานักการเมือง ก่อนการเลือกตั้ง เหมือนช่วงก่อนปี 2562 ได้เริ่มขึ้นอีกแล้ว
จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้ มี 2 นายตำรวจ ระดับรอง ผบ.ตร. ขยันเป็นพิเศษกับคดีกลุ่มทุนจีน เปิดผับ เปิดบ่อน และให้ข้อมูลต่อเนื่องมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงนักการเมืองดังระดับอดีตรัฐมนตรี แม้ไม่บอกชื่อตรงๆ แต่บอกว่า เป็นคนที่สื่อคิดนั่นแหละ ก็ชัดเจนว่า เป็นเกมการเมือง ของใครบางคน ที่หลายคนรู้ดี กำลังใช้ความพยายามโดยอาศัยความได้เปรียบสุดท้าย จะฉุด จะดึง เหนี่ยวรั้ง ให้กลุ่มก้อนทางการเมือง ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ไม่ย้ายขั้ว เปลี่ยนข้างไปค่อนข้างแน่
เพราะโมเดลคล้ายๆ ตอนตั้งพรรคพลังประชารัฐใหม่ๆ ที่ดึงกลุ่มก้อนการเมืองต่างๆ ซึ่งมีชะนักติดหลังแทบทั้งสิ้นมาอยู่รวมกัน และผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเก้าอี้นายกฯต่ออีกสมัยจนสำเร็จ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะครบ 4 ปี บุญคุณ คดีความเก่า ทยอยเคลียร์ไปเกือบหมด ก็ย่อมต้องเอาเรื่องใหม่มากดทับไว้อีกครั้ง ซึ่งสอดรับกับคำพูดของ พล.ต.อ.วัชรพล ว่ามีคดีใหญ่ คดีสำคัญ จะเข้าที่ประชุม เพื่อเชือดในเดือนนี้ ส่วนใครจะโดนบ้าง เชื่อว่ามีคนหนาวๆ ร้อนๆ อยู่หลายคน
ทั้งในซีกรัฐบาลที่กำลังจะย้ายขั้ว หรือแม้แต่ซีกเพื่อไทยเพราะแว่วมาว่า 1 ในคดีสำคัญ ที่ ปปช.จะหยิบมาพิจารณาในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับ “จำนำข้าว” ในคดีระบายข้าว “จีทูจี” ซึ่งมี 10 สัญญา และโปร่งใสแค่ 2 สัญญาเท่านั้น นั่นเองส่วนหวยจะไปออกที่ตัวละครไหน จะแค่นักการเมืองเก่า หรือลามไปถึง “เจน 3” ของชินวัตร ที่ขยับมาเป็นผู้นำในเวลานี้ด้วยหรือไม่ คงต้องรอลุ้นกัน … แต่เชื่อว่าการขยับคดีสำคัญในเวลานี้ของ ปปช.จะส่งผลต่อโฉมหน้าการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เป็นอย่างมากแน่นอน ……
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
