แรงส่งสำคัญของเศรษฐกิจไทยเวลานี้ การท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์หลัก ไม่ต่างจากการส่งออกที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก หากส่งออกดีเศรษฐกิจจะดีตามไปด้วย
โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า มั่นใจในช่วงปลายปีเศรษฐกิจยังไปต่อได้ เนื่องจากตัวเลขการส่งออก 9 เดือน ขยายตัวเกินร้อยละ 10 และเชื่อว่ายังคงขยายตัวต่อเนื่อง สามารถทำรายได้เข้าประเทศในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 9 ล้านล้านบาท ในขณะที่นักท่องเที่ยวจะทยอยเข้าประเทศมากขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจทั้งประเทศ
แม้ว่ากำลังซื้อในส่วนของต่างจังหวัดจะไม่คล่องตัวมากนักแต่จากนโยบายประกันรายได้พืชเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เกิดการหมุนเวียนจับจ่ายใช้สอยไปยังร้านค้าหมู่บ้านชุมชนต่างๆ ส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคยังคงขับเคลื่อนไปได้ ถือเป็นแรงส่งที่สำคัญในช่วงปลายปีต่อไปยังปีหน้า
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ บอกว่า ศูนย์พยากรณ์ฯ มั่นใจว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยเวลานี้กำลังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งปี2565 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.3-3.5 โดยในปีหน้าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2 และทั้งปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.5-4.0 ซึ่งเป็นระดับที่กลับเข้าสู่ระดับปกติก่อนโควิด 19 แล้ว
แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต้องไม่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนรวมถึงความขัดแย้งอื่นๆ และยังคงต้องมีมาตรการในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าด้วย เช่น โครงการช้อปดีมีคืน หรือโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ยังคงเติบโตได้ร้อยละ 4 เป็นแรงส่งไปสู่เศรษฐกิจปีหน้าได้
ถึงแม้ว่า IMF จะมีการประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยและในปีหน้าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะต่ำกว่าในปีนี้เพราะยังมีปัจจัยกดดันหลายทาง โดยเฉพาะสงครามระหว่างรัสเซียยูเครนที่มองว่าเวลานี้ได้ผ่านจุดที่ส่งผลกระทบสูงสุดไปแล้ว แต่สถานการณ์ยังคงไม่คลี่คลาย ทำให้บรรยากาศทั่วโลกยังคงอึมครึม การกำหนดทิศทางรับมือจึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด แต่เมื่อรู้อยู่แล้ว ว่าอะไรคือปัจจัยเสี่ยงการวางแผนเตรียมตัวรับมือคงเป็นเรื่องที่คาดเดาได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews