Home
|
ข่าว

มาแน่เลือกตั้ง แอคชั่นเศรษฐกิจ

น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในห่วงจังหวะที่เกมการเมืองร้อนฉ่า รับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า 2566ขณะที่นายกฯ ลุงตู่ รอฤกษ์งามยามดีประกาศท่าทีทางการเมือง ภายใต้สมการที่ทุกอย่างต้องพร้อม เพราะเกมนี้พลาดไม่ได้ เดิมพันด้วยอนาคต

 

 

ล่าสุด ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า ประเมินภาพ เศรษฐกิจไทย หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกถึงแนวโน้มการเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 2566 ซึ่งเป็นจิตวิทยาดีต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยอีกทั้งการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ตามคาด สู่ที่ระดับ 1.25% โดยยังคงมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ 2565 จะขยายตัวที่ระดับ 3.2% และจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2566 และ 2567 ที่ระดับ 3.7% และ 3.9% ตามลำดับ จากแรงหนุนภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคเอกชน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่มีการขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะหนุนทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าได้ต่อเนื่องเช่นกัน

 

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ พาย ระบุว่า หากข้อมูลเรื่องเงินเฟ้อที่กนง. ประเมินปีหน้าจะลงมาอยู่ที่ระดับ 3% นั้น ประเทศไทยจะถือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจปีหน้ายังขยายตัวได้และขยายตัวสูงกว่าเงินเฟ้อ สวนทางกับบางประเทศที่เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะหดตัวหรือเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าเงินเฟ้อ ในแง่ของการท่องเที่ยวประเมินว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวราว 22 ล้านคน

 

 

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย “นายวชิร คูณทวีเทพ” ถึงกลไกทางการเมืองที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้า โดยมองว่า การเลือกตั้งของประเทศไทยจะเกิดขึ้นในปีหน้า ตามที่หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่ปัจจัยการเมืองไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญอันดับ 1 ที่เศรษฐกิจกังวล

 

“ในส่วนของภาคธุรกิจเอง การเมืองก็เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจ นั่นหมายความว่า ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ที่หลายๆ ฝ่ายมองไว้ ก็จะต้องมาดูในส่วนของนโยบายในการขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจ เพราะว่าถ้าหากมีการเปลี่ยน เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนฝั่ง หรือเปลี่ยนผู้บริหาร แนวทางในการดำเนินธุรกิจ หรือแนวนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ จะคงเหมือนเดิมหรือว่ามีการเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไหม อันนี้เป็นสิ่งที่นักธุรกิจยังconcernอยู่ แต่ด้วยภาพปัจจัยทาง ด้านการเมืองก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ก็ยังไม่ได้ถือว่าเป็นที่สำคัญมากเป็นอันดับ 1 แต่ก็อยู่อันดับต้นๆ ” และเมื่อถามต่อว่า รัฐบาลจำเป็นต้องแอคชั่น ออกมาตรการทางเศรษฐกิจในขณะนี้มากน้อยเพียงใด คำตอบที่ได้ น่าสนใจ

 

 

“จะต้องแอคชั่น ในส่วนของการกระตุ้นการบริโภค การท่องเที่ยวที่จะต้องให้คนเริ่มกลับมาท่องเที่ยวเพื่อให้ภาคบริการในหลายๆ พื้นที่กลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะต้องดูแลในเรื่องของต้นทุนของผู้ประกอบการที่ก็มีรูปแบบหรือว่าต้นทุนที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน” และนี่ก็เป็นมุมมองทางเศรษฐกิจไทยที่เชื่อมโยงกับการบ้านการเมืองเข้มข้น ที่เราๆ นั้น ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะทุกปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้น ถูกเดิมพันด้วยการเลือกตั้งนั่นเอง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube