นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน การประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว กิจกรรมสร้างเครือข่ายและเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด การเป็นเจ้าบ้านที่ดี ที่ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพ
โดยนายอารัญ บุญชัญ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการคาดการณ์สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2566 ว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการกลับมาของเที่ยวบินจากจีน และความรวดเร็วของการเปิดให้จำหน่ายแพคเกจทัวร์ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวอาเซียนจะยังเป็นตลาดหลักที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนนักท่องเที่ยวเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวันจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องที่ระดับร้อยละ 60 – 80 สำหรับนักท่องเที่ยวระยะไกล คาดว่าจะฟื้นตัวที่ร้อยละ 70 – 80 โดยจะมีความท้าทายเนื่องจากปัจจัยด้านการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวที่ล่าช้าของอุตสาหกรรมการบินจะส่งผลกระทบต่อตลาดระยะไกล นอกจากนี้ จากการที่ประเทศจีนจะปรับลดระดับมาตรการการจัดการโรคโควิด-19 ส่งผลให้คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 20 ล้านคน เป็น 25 ล้านคน เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 2.38 ล้านล้านบาทที่ตั้งเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้
ด้านนายพิพัฒน์ก็ได้กล่าวถึงเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวว่าประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 4 ของโลก แต่ก็มีชื่อเสียงเรื่องการสูญเสียของนักท่องเที่ยว ที่มาเสียชีวิตในประเทศไทยก็ติดในลำดับความปลอดภัยที่ท้ายๆถือว่ามีความเสี่ยงสูง ซึ่งการที่มาหารือในวันนี้เพื่อที่จะยกระดับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเป็นการบูรณาการในหลายกระทรวงตั้งแต่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดยตนอยากให้มีการฝึกอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา และการฝึกไลฟ์การ์ดเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำอีกด้วย
“เรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ซึ่งถามว่าประเทศไทยเราเนี่ย เราได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและมีรายได้จากการท่องเที่ยวเนี่ยเป็นลำดับที่ 4 ของโลกที่มีการจัดเรตติ้งที่ผ่านมาแต่เราก็ได้ชื่อเสียงอีกเช่นกันในเรื่องของการสูญเสียนักท่องเที่ยวที่มาเสียชีวิตในประเทศไทยก็ติดเป็นอันดับความปลอดภัยที่ท้ายๆก็คือมีความเสี่ยงสูงซึ่งการที่พวกเรามานั่งหารือและมาคุยกันในวันนี้เนี่ยก็เพื่อจะยกระดับความปลอดภัย ของนักท่องเที่ยวให้ได้ โดยเป็นการบูรณาการกันในหลายๆกระทรวง ตั้งแต่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งเหล่านี้เนี่ยในหลายๆหน่วยงานเราก็ต้องบูรณาการถามว่ากระทรวงการท่องเที่ยวเราทำได้ไหมพวกเราทำไม่ได้หรอกครับเพราะพวกเราไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือพวกเราไม่มีคนที่มากพอที่จะไปดูแลนักท่องเที่ยวเพราะฉะนั้นโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตำรวจภูธรเขามีทุกอำเภอมีทุกตำบลนะครับโดยทั่วประเทศแล้วเนี่ยมีกำลังคนถึงประมาณใกล้เคียง 3 แสนคนแต่ในขณะที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเรามีเจ้าหน้าที่แค่ 2,000 กว่าคนเพราะฉะนั้นหลักใหญ่ในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเราคงจะต้องอาศัยกำลังคน ของตำรวจภูธรบวกกับตำรวจท่องเที่ยว”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
