น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับ “ศึกซักฟอก” ภายใต้ยุทธการ “ถอดหน้ากากคนดี” ที่จะเริ่มเปิดฉากขึ้นในวันที่ 15-16 ก.พ.โดยฝ่ายค้านตั้งธงอภิปราย 24 ชั่วโมง ขณะที่รัฐบาลได้เวลา 8 ชั่วโมง วันแรกลากยาวถึงตี 2 ครึ่ง
และสำหรับ “ศึกซักฟอก” ครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ แต่เกมนี้ ว่ากันว่า หากฝ่ายค้านได้ชำแหละผลงานรัฐบาลและนายกฯลุงตู่ได้สำเร็จ ก็เชื่อแน่ว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยม “พล.อ.ประยุทธ์” อย่างแน่นอน
ในมุมมองภาคเอกชน “นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง” ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ครั้งหนึ่งนั้น เขาคือผู้นำทัพสิงห์รถบรรทุกบุกกระทรวงพลังงาน จี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลาออกจากตำแหน่ง โดย “นายอภิชาติ” ให้ความเห็นกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า นายกฯลุงตู่ ยุบสภาก่อนศึกซักฟอกแน่นอน นั่นเพราะถ้าเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามอภิปราย จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ในวันนี้มาในมาดนักการเมืองเต็มตัวแล้ว
(ปล่อยเสียง นายอภิชาติ-01) “ถ้าจะมีการซักฟอกอภิปรายโดยไม่ลงมติ ผมเรียนตรงๆนะครับ ผมมองว่า นายกฯยุบสภาก่อนอภิปรายแน่นอน ในขณะนี้ท่านเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว แล้วก็ท่านเอง ก็ช่วยหาเสียงอยู่ ผมก็คิดว่า ในเมื่อท่านไปหาเสียง ท่านก็ต้องมีนโยบายของพรรคท่านอยู่แล้ว และถ้าอยู่ดีๆ ไปอภิปรายแล้ว คนพูดโจมตีท่านเสียๆ หายๆ จะทำให้ภาพลักษณ์ท่านเสีย อันนี้ผมมองของผมอย่างนี้นะครับ”
และเมื่อถาม “นายอภิชาติ” ว่า ถ้าวันนี้มีการเลือกตั้ง แล้วได้รัฐบาลใหม่ สิ่งแรกที่จะอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเป็นอันดับแรกๆ คือ เรื่องอะไร “นายอภิชาต” กล่าวว่า ให้มาดูแลราคาพลังงาน เพราะวันนี้แพงขึ้นมาก กระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจ
“ถ้ามีการเลือกตั้ง แล้วมีรัฐบาล ผมก็อยากจะวิงวอนว่า ให้ทบทวน ในเรื่องของพลังงาน และก็กระทรวงพาณิชย์ต้องแข็งแรงกว่านี้ เพื่อควบคุมราคาสินค้า ตรงนี้จะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจเราไปได้ เพราะวันนี้เงินมันเฟ้อมากแล้วไง”
ดังนั้นนโยบายเศรษฐกิจถือเป็นนโยบายสำคัญของพรรคการเมืองที่จะมัดใจประชาชน และเมื่อได้เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว “นายอภิชาติ” บอกว่า ต้องเร่งทำให้นโยบายเป็นจริงภายใน 6 เดือน
“ก็คือ 1.เลยพลังงาน แล้วก็ต้องไปดูถึงระดับรากหญ้ากับระดับคนชั้นกลาง ว่า เขาเดือดร้อนอะไร แล้วเอาตรงนั้นมาเป็นนโยบายของพรรค แล้วทำให้ได้ผลขึ้นมาภายในหลังจากรับตำแหน่งแล้วภายใน 6 เดือนหรือ 1 ปี ให้เห็นผลมา ผมคิดว่า ทุกคนก็ยอมรับ”
และทั้งหมดนี้ก็คือความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะทุกเรื่องราวย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
