แม้เวลานี้ จะยังไม่กำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่สภาง่อย ล่มทุกวันเพราะส.ส.ไม่มาประชุม เอาแต่ลงพื้นที่ ทำให้ภาพการแข่งขัน แย่งชิงคะแนนเสียง ดุเดือดเหนือคำบรรยาย
และอาจนับได้ว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่าง โดยเฉพาะ 2 ลุง กับ 1 หลาน ที่มีอีกลุง ที่อยู่แดนไกลเป็นแรงใจ “ลุงคนแรก” พล.อ.ประยุทธ์ ในนามรวมไทยสร้างชาติ มีสรรพกำลัง ทรัพยากรของรัฐเต็มอัตราศึก ในการเดินหน้าทำคะแนน และตกปลาจากบ่อเพื่อน มาพร้อมสโลแกน “ประเทศไทยต้องไปต่อ” ขอเวลาอีก 2 ปีเพื่อพลิกโฉม แต่ยังไม่ประกาศนโยบายอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน เพื่อบ่งบอกว่ามีดีกว่าพรรคคู่แข่งตรงไหน นอกจากความพยายามจะขายภาพลักษณ์ “ลุงตู่”ผู้ซื่อสัตย์ และภักดี เท่านั้น
ซึ่งหากขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ครั้งที่ 2 โคราชบ้านเกิดยังเป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรใหม่มาจูงใจขอแคะแนนเสียง อาศัยแต่กระแสเก่าๆ ก็คงไม่ง่ายกับเป้าหมาย 100 ที่นั่งเป็นอย่างน้อย เพื่อยู่ต่อ ต่างจากอีกลุง “พล.อ.ประวิตร” ผู้นำแห่งพลังประชารัฐ นโยบายชัดเจน หมัดฮุกโดนใจ เพิ่มเงินบัตรคนจนเป็น 700 แถมด้วยวลีเท่ห์ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” เปิดทางปรองดองสมานฉันท์ พร้อมจับมือทุกพรรคหลังเลือกตั้ง และไม่ตอบโต้พรรคใดเลย มุ่งแต่ลงพื้นที่หาเสียงของตัวเองทำคะแนนเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความเก๋าเกมทางการเมือง “บิ๊กป้อม” สามารถตรึงบ้านใหญ่ ซุ้มต่างๆ
รวมถึง ดึงคนที่เคยมีปัญหา ทิ้งพรรคไปแล้ว กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ตามแนวทาง”ก้าวข้ามความขัดแย้ง” สร้างภาพความปึกแผ่นให้พลังประชารัฐ ได้ดีขึ้นยิ่ง เหลือแค่รอดูผลงาน จะได้ตามเป้า เกิน 50 ที่นั่ง แล้วรอเป็นรัฐบาล เหมือนที่แกนนำบางคนการันตี ว่าพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล 99% ได้จริงหรือไม่แค่นั้น ปิดท้ายด้วย “หลานอุ๊งอิ๊ง” ที่มี “ลุงโทนี”แดนไกล คอยเป็นแรงใจ อุ้มท้องเดินสายหาเสียงอย่างหนัก ขึ้นล่อง เหนือ อีสาน ใต้ และตอนนี้เหมือนถูกบีบบังคับให้ต้องรับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯไปในตัว หลังกระแสดีวันดีคืน จะเห็นได้ว่า 2 ลุง 1 หลานนั้น มีเป้าหมายค่อนข้างชัดเจนมาก
ซึ่ง “ลุงป้อม”พลังประชารัฐนั้น เป้าหมายเหมือนจะง่ายกว่าคนอื่นๆ เพราะไม่ได้ฝันไกลว่าต้องได้เป็นนายกฯ เว้นแต่ประชาชนเลือกมาแบบถล่มทลาย ก็พร้อม รับตำแหน่ง แต่หากได้ 50 ตามเป้าหมาย ก็รอคอยจับมือกับลุง หรือ กับหลาน ก็คงไม่มีปัญหา เพราะเปิดทางไว้แล้ว “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” แต่สำหรับ “ลุงตู่”
นั้นไม่ใช่ กดดันมากกว่าลุงคนพี่ เพราะต้องทำให้ได้ หากรวมไทยสร้างชาติทำไม่ได้ตามเป้า ไม่ได้เป็นหัวแถวของซีกพรรครัฐบาลเดิม ก็หมดโอกาสที่จะไปพลิกโฉมประเทศอีก 2 ปี แน่นอน เช่นเดียวกับ
“อุ๊งอิ๊ง” หากแลนด์สไลด์ไม่เกิด หรือเกิด แต่ไม่ได้ตามเป้า 200 ที่นั่งเป็นอย่างน้อย เพราะโดนพรรคคู่แข่งเอ็กสตรีมที่มีกลุ่มฐานเสียงใกล้เคียง แย่งไป โอกาสที่เพื่อไทยจะเป็นรัฐบาล ไปทำเพื่อประชาชน หรือวาระแฝงเพื่อพ่อและอา ก็คงยากเช่นกัน ดังนั้น ช่วงเวลาที่เหลือ 2 ลุงกับ 1 หลาน ที่มีเป้าหมายจำนวนที่นั่งต่างกัน แต่ปลายทางเดียวกัน คงต้องออกแรงกันอีกเยอะพอสมควร เพื่อเข้าเส้นชัย….
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews