แอ๊คชั่นรายวัน “ป๋าชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กำลังขึ้นหม้อ ฉายโชว์ต่อเนื่อง กลายเป็นซุปตาร์ เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพล ที่มีคนติดตามมากมาย ซึ่งช่วงหลังๆ เขาเปิดศึกกับเบอร์ใหญ่ๆ เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมาก
ซึ่งถ้านับไปแล้วประมาณ2-3 ราย เริ่มจาก 2 รายล่าสุดคือจอมขมังเวทย์อีสานใต้ เนวิน ชิดชอบ พร้อมลูกน้องคนสนิทอย่าง เสี่ยหนู อนุทิน บิ๊กบอสสาธารณสุข ที่เล่นกันหนัก ประกาศเป็นศัตรูกันอย่างชัดเจน ซึ่งงานนี้ “ป๋าชู” มุ่งเป้าไปที่ประเด็น กัญชา และ รถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมไปถึง เขากระโดง ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ดินหลวงของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่ง 3 มีนาคม 2566 ชูวิทย์ตั้งโต๊ะแฉเพื่อชาติ ถล่มพรรคภูมิใจไทย
เปิดโปงขบวนการทุจริตคอร์รัปชัน 12 รายการ ซึ่งเกี่ยวพัวกับเรื่องบริษัทรับเหมาก่อสร้าชื่อดังหลายบริษัท และครอบคลุมไปถึงเรื่องโฉนดที่ดิน การถือครองที่ดิน ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การที่ชูวิทย์ จับมาเล่นใหม่น่าจะสร้างสีสันและเรียกกระแสได้ไม่น้อย สำหรับประเด็น เขากระโดงนั้น ทางนายศักดิ์ บอสคมนาคมเคยกล่าวไว้ว่า เรื่องที่ดินเขากระโดง มีการดำเนินการมานานมาก และก็ได้ข้อยุติไปครั้งหนึ่ง แล้วก็มีเรื่องอีก และมีข้อยุติอีก แล้วก็มีเรื่องอีก ทุกครั้งที่คนที่เกิดในนามสกุลชิดชอบ ตั้งแต่รุ่นพ่อ
พอดำรงตำแหน่งทางการเมืองขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาตลอด แล้วก็มีการดำเนินตามกฎหมาย แล้วก็ยุติ ท่านเนวิน ขึ้นมาก็โดนเรื่องนี้ ก็ยุติ พอมาถึงผม ก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีก…” นอกจาก เนวินกับอนุทินแล้ว ชูวิทย์ ยังเปิดวอร์เดือดกับทั้งตำรวจในปัจจุบันและอดีตตำรวจอีกหลายราย อย่าเพิ่งวิวาทะรุนแรงคือ รองต่อ “สันธนะ ประยูรรัตน์” ที่ฟัดกันมาหลายรอบแล้ว ท้าตีท้าต่อยกันมาตลอด อย่างล่าสุด สันธนะไปเร่งรัดคดีที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายชูวิทย์ และพวกรวม 9 คดี และได้เผชิญหน้ากัน โดยชูวิทย์เล่นใหญ่อีกตามเคย สวมเสื้อกล้ามใส่นวม ตะโกนท้าทาย เรียกความสนใจได้อีกเหมือนเคย
ส่วนโจทก์ของ”ชูวิทย์” อีกรายเป็นนายตำรวจใหญ่อย่าง บิ๊กจ้าว พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในประเด็นเกี่ยวกับการทำคดี”ตู้ห่าว” ที่ชูวิทย์ออกมาเป่านกหวีดชูใบแดง พร้อมระบุต้องเปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพราะการทำงานในคดีนี้มีพิรุธ ทำให้ประชาชนไม่สามารถไว้วางใจได้ จึงต้องไล่ออกเท่านั้น นอกจากนี้ ชูวิทย์ยังได้ท้าให้ผบช.น.เข้าเครื่องจับเท็จรวมไปถึงท้าให้ไปจุดธูป 3 ดอก สาบานที่สนามหลวงพร้อมตนว่าไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง
และถ้าย้อนวีรกรรมชูวิทย์ ต้องบอกว่าสุดจัด ขนาดนักข่าวยังไม่เว้น
โดยเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2551 ชูวิทย์ ที่ขณะนั้นเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ฟิวขาด ชก “วิศาล ดิลกวณิช”ผู้ดำเนินรายการข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 จนต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งชูวิทย์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าที่ทำเพราะไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ซึ่งถือว่า ไม่มีจรรยาบรรณของสื่อ ขณะที่คุยกันหลังเวทีก่อนออกอากาศนั้น ได้พูดคุยอีกอย่าง แต่เมื่อตอนออกอากาศกลับถามอีกแบบหนึ่ง
ส่วนในมุมเปิดศึกกับนักการเมืองนั้น ชูวิทย์ เคยชนระดับ สารวัตรเหลิม บางบอนมาแล้ว ในศึกอภิปรายไม่วางใจรัฐบาลเมื่อเดือนพ.ย.2555 ชูวิทย์ ในขณะนั้น เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ชน “ร.ต.อ.เฉลิม ” ที่เป็นรองนายกฯ กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าล้มเหลวปราบบ่อนการพนัน รวมไปถึงอภิปราย สุเทพ เทือกสุบรรณ คดีทุจริตสร้าง 396 โรงพัก รวมมูลค่าความเสียหาย 5,848 ล้านบาท จนวันนี้เทพเทือกพ้นมลทินไปแล้ว
อย่างไรตามต้องติดตาม ว่า เส้นทางลุยกับ 3อริตัวเอ้อย่าง เนวิน อนุทิน และ สันธนะ จะไปบรรจบลงที่ไหน แบบผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ หรือจะเป็นแบบไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
