เจสัน เฉา ซีอีโอของหัวเว่ย โกลบอล ดิจิทัล ไฟแนนซ์ เปิดเผยในงานแถลงข่าวหัวข้อ “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลชั้นนำเพื่อคุณค่าใหม่ร่วมกัน” (Leading Digital Infrastructure for New Value Together) ว่า บริการทางการเงินอัจฉริยะบนมือถือได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้บริการหลัก ๆ มีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ในขณะที่หัวเว่ยเองได้เร่งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใน 6 ด้าน ได้แก่ การเปลี่ยนจากธุรกรรมเป็นการมีส่วนร่วมเชิงดิจิทัล การพัฒนาแอปพลิเคชันและข้อมูลที่ใช้งานบนคลาวด์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสู่การเป็น MEGA การประยุกต์ใช้งานข้อมูลและเอไอในเชิงอุตสาหกรรม การพัฒนาการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และการก้าวสู่สมองเอไอที่ล้ำสมัย เพื่อช่วยให้ลูกค้าภาคการเงินเร่งการเปลี่ยนแปลง ยกระดับผลิตภาพด้วยนวัตกรรม ทำให้ผลิตภาพจับต้องได้ และเร่งวิวัฒนาการสู่อนาคต
ทางด้าน บ็อบ เฉิน รองประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า รายได้จากการขายของหัวเว่ยคาดว่าจะสูงถึง 6.369 แสนล้านหยวนในปี 2565 และธุรกิจองค์กรยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การเงิน รัฐบาล คมนาคม และพลังงาน จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้พัฒนาโซลูชันมากกว่า 100 รายการเพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
บ็อบ เฉิน กล่าวต่อไปถึงกลยุทธ์ของหัวเว่ยในการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคม หัวเว่ยให้คำมั่นว่าจะมุ่งเน้น “พันธมิตรเป็นศูนย์กลาง” โดยจะส่งเสริมพันธมิตรในการวางระบบครบวงจรครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การตลาด การขาย การจัดซื้อ ไปจนถึงการให้บริการ อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินการสนับสนุนในส่วนขององค์กร ช่องทาง และอุปกรณ์ไอที
สำหรับองค์กรนั้น หัวเว่ยได้จัดตั้งองค์กรที่รับผิดชอบธุรกิจการค้าและการจัดจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 6 ทีมในด้านดาต้าคอม แคมปัส (datacom campus) ความปลอดภัย เครือข่ายนำแสง การสร้างการรับรู้ของอุตสาหกรรม ความร่วมมืออัจฉริยะ และการจัดเก็บข้อมูล เพื่อให้มั่นใจว่าทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนามีเพียบพร้อม
ส่วนช่องทาง หัวเว่ยได้ปรับปรุงระบบช่องทางให้ดียิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนพันธมิตรและผู้วางระบบในตลาดเชิงพาณิชย์ รวมถึงผู้จัดจำหน่ายและผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมในตลาดการจัดจำหน่าย
ในขณะที่อุปกรณ์ไอทีนั้น หัวเว่ยจะเพิ่มการลงทุนในเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัลของพันธมิตร รวมทั้งนำเสนอแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบรวมศูนย์ (ทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือ) เพื่อสนับสนุนการตลาด การซื้อขาย และบริการออนไลน์ของพันธมิตร