นายกฯเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์
นายกฯเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกสินค้า ปรับปรุงระเบียบของกรมเจ้าท่า อำนวยความสะดวกให้เรือใหญ่เข้าเทียบท่าเรือที่แหลงฉบัง
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาสถานการณ์ ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ สำหรับส่งออกสินค้า และเร่งพิจารณากำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว หลังจากภาคเอกชนได้หารือในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. โดยนายกฯได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง จนนำมาซึ่งการปรับปรุงระเบียบของกรมเจ้าท่า อำนวยความสะดวกให้เรือใหญ่ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เข้าเทียบท่าเรือที่แหลงฉบังได้สะดวกขึ้น ลดปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน
โดยกรมเจ้าท่า ได้ออกประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 25/2564 เรื่อง กำหนดให้เรือที่มีความยาวมากกว่า 300 เมตร แต่ไม่เกิน 400 เมตรเข้าเทียบท่า โดยการออกประกาศดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้สามารถนำเรือใหญ่ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาเทียบท่าเรือได้เพิ่มขึ้น ประมาณร้อยละ 20-30 ในเส้นทางหลัก และจะส่งเสริมให้มีการนำตู้เปล่าเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 12,000 ตู้ ช่วยบรรเทาการขาดแคลนตู้สินค้าได้ และยังช่วยให้ค่าระวางเรือในการขนส่งจากประเทศไทยลดลงด้วย ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้รัฐบาลได้รับการชื่นชมจากสภาหอการค้า ฯ และภาคเอกชน ที่นายกรัฐมนตรีเล็งเห็นถึงความสำคัญ ตลอดจนความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา และดำเนินการขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือสอท. ยังศึกษาเพิ่มช่องทางการส่งออกแบบไม่ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ เช่น เรือสินค้าเทกองเรือ หรือแบบดั้งเดิม เพื่อเป็นทางเลือกในช่วงที่ตู้สินค้าขาดแคลน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีนโยบายชัดเจนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการขนส่งทางทะเล ทั้งระบบ ปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรองรับปริมาณการค้าโลกที่จะเพิ่มสูงขึ้นหลังสถานการณ์วิด-19 โลกคลี่คลายในปลายปีนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news