ปชป.ขอบคุณสมาชิกรัฐสภาช่วยดันแก้ รธน.
โฆษก ปชป.ขอบคุณ สมาชิกรัฐสภา ผลักดันแก้ รธน.ผ่านวาระ 2 ไม่กังวล กรณีศาล รธน.จะวินิจฉัย
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมในวาระที่ 2 ว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ซึ่งต้องขอบคุณ สมาชิกรัฐสภา ที่ได้มีมติให้ความเห็นชอบเพิ่มเติมในวาระที่ 2 ซึ่งจะเห็นว่าในรายละเอียดของแต่ละมาตราในการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 โดยมีการ กลับไปใช้ร่างเดิม คือ ใช้คะแนนเสียง 3 ใน 5 และจะใช้มาตรา 256 ทำให้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมได้ง่ายขึ้น
โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้มีการเพิ่มเติมหมวด 15/1 ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 200 คน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งซึ่งถือว่าเป็นการให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีมติในที่ประชุมให้เห็นชอบในวาระที่ 3 เรื่องผลักดันแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขเพิ่มเติม เป็นรายมาตรานั้น ทางพรรคไม่มีข้อกังวล และพรรคพร้อมที่จะปฏิบัติตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ที่ผ่านมาพรรคเห็นว่ามีบางมาตราที่ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย หรือมีปัญหาในทางปฏิบัติ แต่ขอยืนยันว่าทางพรรคมีข้อมูลที่ครบถ้วนหากศาลรัฐธรรมนูญต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ปชป.ยังไม่คุยหาใครแทน “ถาวร”นั่ง รมช.คมนาคม ยังมั่นใจในโควตาเดิม ย้ำ “ถาวร”ยังไม่พ้นจากการเป็น ส.ส.พร้อมชี้แจงหากมีใครยื่นศาลตีความ
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรค หลังนายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้องพ้นจากตำแหน่ง ว่าอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกรัฐมนตรี แต่ขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี มายังหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วยนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ จึงยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคว่าจะให้ใครมาแทน
ส่วนจะเป็นโควตาของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิมหรือไม่นั้น นายราเมศ ระบุว่า หลักการยังเป็นไปตามเดิม และเป็นไปตามการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่กังวล และยังยึดในหลักการ การกำหนดโควตาคณะรัฐมนตรี ที่มีการกำหนดตั้งแต่การเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว นี่คือสิ่งสำคัญที่เชื่อได้ว่าพรรคการเมืองจะยึดแนวทางเดิมในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
สำหรับการสิ้นสุดสมาชิกภาพส.ส. ของ 3 รายชื่อ ที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีกบฏ กปปส. ทั้งจำคุกและถูกถอดสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี จะต้องแบ่ง เป็นกรณีที่ศาลพิพากษาให้จำคุกอย่างเดียว ประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม ส.ส.จังหวัดสงขลา ซึ่งหากดูตามรัฐธรรมนูญ ความเป็นสมาชิกภาพของนายถาวร ยังไม่สิ้นสุด โดยได้ตรวจดูข้อกฎหมาย ไม่เข้าตามข้อต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญใดๆทั้งสิ้น เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด หลักกฎหมายระบุไว้ชัดเจน และส่วนที่ ส.ส.มีการล่ารายชื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ พรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมที่จะชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญตามข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่
ส่วนอีก 2 คนที่มีคำพิพากษาให้จำคุกและศาลได้กำหนดให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเป็นระยะเวลา 5 ปี นายชุมพล จุลใส ส.ส.จังหวัดชุมพร และนายอิสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นั้น กระบวนการเดินไปตามรัฐธรรมนูญทุกกระบวนการ
“ราเมศ”เตรียมหลักฐานยื่นเอาผิด ส.ส.โพสต์โซเชียลหมิ่นศาล กล่าวหามี 2 มาตรฐานปล่อยตัว 8 กปปส.
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณี ที่มี ส.ส.รายหนึ่ง มีการโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียหลัง ศาลฯอนุญาตให้ปล่อยตัว 8 อดีตแกนนำ กปปส. ระบุว่า “ถ้าฝ่ายหนึ่งได้ประกันตัว อีกฝ่ายก็ควรจะต้องได้เช่นกัน ถ้าไม่ได้ก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน ถ้ามีระบบตั๋ว มีความลักลั่น ก็อาจเป็นการเริ่มต้นความล่มสลายของความน่าเชื่อถือของระบบตุลาการไทย” โดยมองว่า เป็นข้อความที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายอำนาจตุลาการ กล่าวหาว่าศาลมี 2 มาตรฐาน มีระบบตั๋วคล้ายกับมีใบสั่ง เพื่อให้ปล่อยตัวชั่วคราว 8 คน ที่เป็นอดีตแกนนำของ กปปส. ซึ่งไปเทียบเคียงกับกรณีของ 4 แกนนำกลุ่มเยาวชนที่ไม่ได้ปล่อยตัว
นายราเมศ กล่าวต่อว่า อยากบอกข้อเท็จจริงถึงการปล่อยตัว หรือไม่ให้ประกันตัวนั้น ตุลาการดูข้อเท็จจริงจากสำนวน พฤติการณ์ที่แตกต่างกัน โดยแกนนำกปปส. ทั้ง 8 คน ศาลอุทธรณ์ได้พิเคราะห์แล้วว่า จะมีพฤติกรรมที่จะหลบหนีหรือไม่ มีหลักทรัพย์ในการยื่นเพียงพอที่กำหนดไว้หรือไม่ และหากปล่อยไปแล้ว จะไปกระทำความผิดซ้ำหรือไม่ หากไปเทียบเคียงกับ 4 คนที่เป็นแกนนำกลุ่มเยาวชน ก็มีการปล่อยตัวมาให้หลายครั้ง นับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่ออนุญาตมาแล้ว หากไปกระทำความผิดในลักษณะซ้ำอีก จะเป็นข้อเท็จที่เกิดขึ้นในสำนวนในการพิจารณาของศาลฯ
ทั้งนี้ได้เตรียมเอกสารหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง กับ ส.ส.คนดังกล่าว เพื่อที่จะไปยื่นต่อ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อให้พิจารณาว่าการกระทำนี้มีความผิดตาม ม.198 หรือไม่ หากผิดก็ต้องดำเนินคดีให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news