ใกล้วันยุบสภา, กกต.แบ่งเขตพื้นที่เลือกตั้งเป็นทางการ, พรรคการเมืองประกาศเป้าหมายตัวเลขชัดเจนยิ่งขึ้น ต้องได้เท่านั้น เท่านี้ เพื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งทั้งหมด
ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์ ว่าพรรคไหน คือของจริง หรือฝันกลางวัน
เพื่อไทย กับการปลุกระดมสรรพกำลังเพื่อแลนด์สไลด์ 310 เสียง ภูมิใจไทย กับเป้าหมายของครูใหญ่ “เนวิน” 120 ที่นั่ง,พลังประชารัฐ ของ”ลุงป้อม”คุยฟุ้งจะเอา 150 แต่ลูกทีมหนีหายไปจำนวนมาก หรือแม้แต่รวมไทยสร้างชาติของ”บิ๊กตู่” ก็ตั้งเป้าเอาไว้สูงลิ่วเช่นกัน เพื่อนั่งในตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสมัย ขณะที่ก้าวไกล พรรคของคนรุ่นใหม่ไฟแรงผลงานสภาเด่นชัดนั้น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประกาศชัดในวันสัมมนาเตรียมความพร้อมว่าที่ผู้สมัคร 400 เขต
ว่าหวังได้ ส.ส.มากกว่าเมื่อครั้งเป็นอนาคตใหม่ ง
จึงนับเป็นโจทย์ใหญ่ โจทย์ยาก และท้าทายมาก สำหรับการเป็นแม่ทัพใหญ่ลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 4 ปีก่อน ทำให้พรรคก้าวไกลต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม เพื่อบรรลุเป้าหมาย เพราะลำพังจะขายเพียงความสดใหม่ของผู้สมัคร และผลงานในสภาช่วงที่ผ่านมา คงกวาดคะแนนเสียงเป็นกอบเป็นกำเหมือนครั้งก่อนไม่ได้ แม้จะมีนิวโหวตเตอร์ใหม่กว่า 4 ล้านคนก็ตาม
สิ่งแรกที่เปลี่ยนไป และน่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญของก้าวไกล คือกติกา เพราะเมื่อ 4 ปีก่อน บัตรใบเดียว คะแนนเสียงไม่ตกน้ำ ไม่ชนะ ส.ส.เขต ก็ยังเอาคะแนนไปนับบัญชีรายชื่อ และนั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เมื่อครั้งเป็นอนาคตใหม่ ได้ ส.ส.มากถึง 81 ที่นั่ง แบ่งเป็น ปาร์ตีลิสต์ 50 และ ส.ส.เขต 31 คน แต่ครั้งนี้บัตร 2 ใบ คะแนนพรรคกับคะแนน ส.ส.แยกกันชัดเจน โดยเฉพาะบัญชีรายชื่อ ต้องได้อย่างน้อยประมาณ 3 แสน หรือ 3.5แสน ถึงจะได้ ส.ส. 1 คน ดังนั้น การจะกวาดปาร์ตี้ลิสต์ แบบเมื่อ 4 ปีก่อน
จึงยากมาก ประกอบกับเปลี่ยนที่ 2 ก็อาจทำให้ ก้าวไกล ลำบากอีกเช่นกัน เพราะกกต.แบ่งเขตใหม่ ปรับเปลี่ยนไปจากของเดิม ส.ส.เขตเดิม ที่เคยมีก็อาจได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ดีหน่อย ที่ทุกพรรคก็เริ่มนับ 1 ในแต่ละพื้นที่ใหม่พร้อมกัน และโจทย์สุดท้าย ที่อาจขวางเป้าหมายของก้าวไกล คือกระแสการเมือง เพราะ4 ปีก่อน “ธนาธร ฟีเวอร์” แต่เวลานี้ กลับเป็นแลนด์สไลด์ ดังนั้น 2 ขั้ว ระหว่างขั้วรัฐบาล กับ ฝ่ายค้าน ที่หลายคนมองว่าเป็นฝ่ายอนุรักษ์ กับ ฝ่ายก้าวหน้า กลุ่มผู้สนับสนุนของ ก้าวไกล ก็อาจซ้ำซ้อนกับเพื่อไทย
ทั้งในเชิงพื้นที่ และเชิงอุดมการณ์ จึงอาจกลายเป็นตัดคะแนนกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเพื่อไทยปลุกกระแสแลนด์สไลด์ โดยมี “อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร” ทายาทผู้สืบสันดานของ “ทักษิณ” ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะหลายคนยังรักอดีตนายกฯ และพร้อมจะเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย แม้จะชอบก้าวไกลก็ตาม ดังนั้น 3 เปลี่ยน ที่ต่างไปจากเดิม คือโจทย์สำคัญของ ก้าวไกล และ “พิธา” รวมถึง 3 ผู้นำจิตวิญญาณอนาคตใหม่ “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” ที่กลับมาช่วยพรรคหาเสียง ว่าจะมีอะไรเป็นทีเด็ด เพื่อจะบรรลุเป้าหมาย ก้าวไกล ได้ ส.ส.มากกว่าเมื่อครั้งเป็นชื่ออนาคตใหม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews