Home
|
ข่าว

เพื่อไทยเปิดนโยบาย 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส

Featured Image
เพื่อไทย เปิดนโยบาย 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส ชี้ ทำได้ทันทีใน 100 วัน ฟื้นฟูยุคทองของกีฬาไทยให้กลับมาอีกครั้ง

 

 

นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะที่ปรึกษานโยบายกีฬา พรรคเพื่อไทย ร่วมกับนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา และนายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช แถลงข่าวนโยบาย “1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส” โดยนายพิมล กล่าวว่า ในปัจจุบันวงการกีฬาไทยต้องเผชิญกับยุคมืด อยู่ในจุดตกต่ำของวงการกีฬาไทย เนื่องจากภาครัฐไม่มีความเข้าใจ ขาดการสนับสนุนจากภาครัฐทำให้นักกีฬาไทยไม่ได้รับการอุดหนุนในการแข่งขันระดับโลกอีกต่อไป

 

โดยนโยบายนี้เดิมทีมาจากโครงการ ‘1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ’ ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปี44-49 ที่มีการมอบหมายให้กระทรวงการคลังกําหนดนโยบายให้รัฐวิสาหกิจที่มีผลประกอบการดี หันมาสนับสนุนงบประมาณให้กีฬาสากลที่มีความหวังจะสร้างผลงานในการแข่งขันระดับนานาชาติ อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ แต่หลังจากการรัฐประหารปี พ.ศ. 49 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยต่างๆ ได้ทยอยถูกยกเลิกเป็นส่วนใหญ่ คงเหลือเพียงสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่ยังได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทำให้โครงการ ‘1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ’ ถูกล้มเลิกไป

 

ซึ่งนโยบายนี้ดำเนินอยู่บนหลักการว่าด้วยกีฬานั้นมีความสําคัญในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อย่างไรก็ดี นักกีฬาในระดับเป็นเลิศในประเทศไทยแม้มีศักยภาพ แต่ยังขาดการสนับสนุน โดยเฉพาะการสนับสนุนในด้านงบประมาณเพื่อนําไปใช้พัฒนานักกีฬาให้สร้างผลงานในการแข่งขันระดับนานาชาติ ดังนั้นหลักการของโครงการ ‘1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส’ คือผลักดันให้รัฐวิสาหกิจรวมไปถึงหน่วยงานของรัฐอื่นๆที่มีกำไรสุทธิในแต่ละปีมากพอให้สนับสนุนกีฬาได้อย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ภายในระยะเวลาหลังพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลและกำกับดูแลกระทรวงการคลัง จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุด และดําเนินการตามนโยบายเสร็จสิ้นภายใน 100 วัน ทั้งหมดเพื่อฟื้นฟูยุคทองของกีฬาไทยให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ให้นักกีฬาไทยได้ไปไกลในระดับสากล มีโอกาสคว้าเหรียญทองในโอลิมปิก เอเชียนเกมส์และซีเกมส์ ภายใต้รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube