“พรเพชร” ยัน วุฒิสภา ยกเลิกกระบวนการเห็นชอบ 14 ว่าที่กสทช. แล้ว ชี้มีผลบังคับใช้ตาม กม.ใหม่ เผยกลับมาสมัครใหม่ได้หากเข้าคุณสมบัติ
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีที่พระราชบัญญัติ องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่4) พ.ศ.2564 (พ.ร.บ.กสทช.) มีผลบังคับใช้ ในวันนี้ (2มีนาคม)
ว่า เมื่อ พ.ร.บ.กสทช. ใหม่ ออกมา ก็มีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการสรรหา และให้ยกเลิกคณะกรรมการสรรหาชุดเดิม จึงส่งผลให้คณะกรรมการ กสทช. ตามกฎหมายเดิม ต้องถูกยกเลิกไปด้วย โดยรายชื่อ กสทช. 14 คน ที่ส่งมาให้วุฒิสภาพิจารณา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ และให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อเลือก กสทช.
ซึ่ง วุฒิสภาได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติความประพฤติ และขณะนี้ยังไม่ครบกำหนด ดังนั้น เมื่อ พรบ.กสทช. ใหม่ มีผลบังคับใช้ ก็กำหนดว่า การเลือก กสทช. ตามกฎหมายเดิมให้พ้นไปหรือยกเลิกไป จึงไม่สามารถดำเนินการได้ต่อ และใน พรบ.กสทช.ใหม่ ก็ให้มีการสรรหาใหม่เช่นกัน
ขณะเดียวกัน นายพรเพชร ยังได้ชี้แจงให้เห็นถึงความแตกต่างในสาระสำคัญ คือ กฎหมายเดิมเมื่อส่งชื่อมาให้วุฒิสภาในจำนวนด้านละ 2 คน 7 ด้าน รวมเป็น 14 คน ให้เลือกส่งไป 1 คน แต่กฎหมายใหม่ ที่ต้องมีการสรรหาใหม่ ให้ส่งมาตามจำนวน โดยให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบย่างเดียว ซึ่งต้องแยกด้วยว่า การสรรหา เป็นเรื่องของคณะกรรมการสรรหา ไม่ใช่ของวุฒิสภา เพราะต้องตัดขาดอำนาจจากกัน
ส่วน 14 คน ที่ต้องยกเลิกไปจากกฎหมายเก่าสามารถกลับมาสมัครใหม่ได้ หากเข้าเงื่อนไขและคุณสมบัติที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ จะเกิดการฟ้องร้องหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า จะฟ้องร้องใคร เพราะกระบวนการยังไม่ครบ 30 วัน
สำหรับกระบวนการจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้รับการสั่งการไปแล้วว่า ตามกฏหมายใหม่ ต้องหาคณะกรรมการสรรหา กสทช. ให้ได้ก่อน
โดยให้แต่ละหน่วยงานส่งรายชื่อมาให้ครบ 7 คน ไม่มีใครเป็นโดยตำแหน่ง ยกเว้นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และเมื่อได้รายชื่อแล้ว คณะกรรมการสรรหาฯ ประกาศเปิดรับสมัคร สัมภาษณ์ประวัติให้ตรงตามเงื่อนไข และจะส่งมายังวุฒิสภา เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมจริยธรรม จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณามติว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news