ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง เราก็จะได้เห็นถึงธาตุแท้ หรือจุดยืนทางการเมืองของผู้สมัคร ส.ส. และพรรคการเมืองชัดเจนมากยิ่งขึ้น บางคนมั่นคงกับสิ่งที่ตัวเองทำมาตลอด จนกลายเป็นจุดแข็ง
เรียกคะแนนนิยมได้ เช่น รวมไทยสร้างชาติ ที่สุดโต่งไปทางขวา หรือก้าวไกล ที่แข็งกร้าวไปทางซ้าย หรือบางพรรคบางคนก็ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เพื่อความได้เปรียบ และอนาคตทางการเมืองอย่างเพื่อไทย ที่ถูกท้าทายถึงจุดยืน จน”เศรษฐา” ต้องพูดแบบชัดๆ แต่คนจะเชื่อหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง หรือประชาธิปัตย์ ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นของเก่าหมดอายุ ไร้ราคา ขณะบางพรรคก็ถูกมองไร้จุดยืนลื่นเหมือนปลาไหล อย่างเช่นในอดีต แต่นั่น คือวัฏจักรของการเมืองไทย ดังนั้นการเลือกตั้ง 14 พ.ค.ที่เหลือเวลาการหาเสียงอีกไม่มาก พลังประชารัฐ ของลุงป้อม อดีตแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 4 ปีก่อนที่ประกาศเป็นโซ่ข้อกลาง ชูนโยบาย ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด พร้อมจับมือทุกพรรคตั้งรัฐบาล จึงถูกจับตาเป็นพิเศษ ว่า”ลุงป้อม” และชาวคณะ ยืนอยู่ตรงกลางจริงๆ หรือเป็นแค่ท่วงท่า ในการหาเสียงเพื่อดึงคะแนนนิยมเท่านั้น และพร้อมสวิงไปมา ทั้งขวา และซ้าย เมื่อรู้ผลเลือกตั้ง
จะว่าไปแล้ว ท่าทีของพลังประชารัฐ นั้นไม่ธรรมดา เพราะ “บิ๊กป้อม”นั้น มีบารมีทางการเมืองเหลือล้น มีคอนเน็คชั่นเหล่าทัพหลากหลาย แถมยังเจนจัดทางการเมืองมานาน มีความประนีประนอม และมีมิตรภาพกับทุกๆ พรรค ต่างจาก “น้องตู่” ที่แยกกันเดิน โดยเห็นได้ชัดจากการแสดงออกผ่านเฟซบุ๊คทั้ง 10 ฉบับ ซึ่งจะเขียนเอง หรือมีคนเขียนแทนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ทุกฉบับล้วนแสดงท่าทีของตัว “ลุงป้อม” เองอย่างตรงไปตรงมา ว่าต้องการสื่อถึงอะไร และก็แฝงด้วยการกรีด การเชือดเฉือนคู่ต่อสู้ทุกพรรคไปในคราวเดียวกัน
ฝ่ายค้านเพื่อไทย หรือ ก้าวไกล โดนหมด รวมทั้งพวกเดียวกันก็ไม่เว้น เช่นที่พูดถึงเรื่องการตั้งรัฐบาล ก็ฟาดเอา “ประชาธิปัตย์” กับ ภูมิใจไทย ว่าไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อคำพูดของตัวเองในช่วงของการหาเสียง 4 ปีก่อนแม้แต่น้อย หรือในฉบับล่าสุด ที่ไปแซะทั้ง รวมไทยสร้างชาติ ไล่คนเห็นต่างออกจากประเทศ รวมทั้งแฉว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะคว่ำแก้ รธน.เป็นบัตร 2 ใบ รวมถึงสูตรบัญชีรายชื่อให้กลับไปเป็นหาร 500 ด้วย
ดังนั้น จุดยืนพล.อ.ประวิตร พรรคพลังประชารัฐ ที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่ทอดสะพานกับทุกฝ่าย จึงนับเป็นยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจ ว่า หลังจบเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ พลังประชารัฐ จะอยู่จุดไหน จะกลายสภาพเป็นพรรคแบบที่ชาติไทย เคยทำตั้งแต่ยุคก่อน จนได้รับฉายา “ปลาไหลใส่สเก็ต” และสืบทอดมาจนถึง ชาติไทยพัฒนา ในยุคปัจจุบัน หรือไม่ เพราะ “ป้อมสไตล์ ก้าวข้ามความขัดแย้ง” นี้ ก็มีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับชาติไทยพัฒนาในอดีตนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews