Home
|
ข่าว

สรุป #สวมีไว้ทำไม ปชช.กดดันส.ว.อย่าขวางก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล

Featured Image

ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเลือกตั้งครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ประเทศไทย และแสดงความยินดีกับ พรรคก้าวไกล ที่คว้าจำนวนเก้าอี้ ส.ส. ไปมากที่สุด พร้อมกับถูกคาดหวังว่าจะเป็นหัวเรือจัดตั้งรัฐบาลสมัยต่อไป

แต่ถึงจบปัญหาเลือกตั้งไป ก็ยังต้องลุ้นกับปัญหาด่านต่อไปในสภาอย่าง ส.ว.250 เสียง ที่รอร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีอยู่ จนถึงกับเกิด #สวต้องเคารพเสียงประชาชน เพื่อกดดันการทำงาน แถมยังมี #สวมีไว้ทำไม พ่วงขึ้นมาหลัง 1 ใน ส.ว. ให้สัมภาษณ์ไล่ก้าวไกลให้ไปเป็นฝ่ายค้านอีก

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร วันนี้สรุปมาให้แล้ว

สรุปภาพรวมขั้วพรรคการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา กกต. ได้ออกมาประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า ในการเลือกตั้ง 2566 นี้มีคนไทยมาใช้สิทธิ 39,293,867 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ 52,238,594 คน นับเป็น 75.22% สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ กกต. เคยจัดเลือกตั้งมา

โดยผลการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลคว้าเก้าอี้ ส.ส. ไปทั้งหมด 152 ที่นั่ง, เพื่อไทย 141 ที่นั่ง,

ภูมิใจไทย 70 ที่นั่ง, พลังประชารัฐ 41 ที่นั่ง, รวมไทยสร้างชาติ 36 ที่นั่ง, ประชาธิปัตย์ 24 ที่นั่ง, ชาติไทยพัฒนา 10 ที่นั่ง, ประชาชาติ 9 ที่นั่ง, ไทยสร้างไทยของคุณหญิงหน่อย 6 ที่นั่ง, พรรคชาติพัฒนากล้า 2 ที่นั่ง, พรรคเสรีรวมไทยของป๋าเสรี 1 ที่นั่ง และพรรคเล็กรวมกันอีก 8 ที่นั่งในสภา

ซึ่งแน่นอนว่า พรรคก้าวไกล ที่คว้าตำแหน่งเก้าอี้ได้สูงสุด จะต้องจับมือล๊อบบี้กับ ส.ส. พรรคอื่นจัดตั้งคณะรัฐบาลของตนเองขึ้นมา และต้องมีคะแนนโหวตเป็นนายก สูงกว่า 375 เสียง จากทั้งหมด 750 เสียง

ส่งผลให้ประชาชนที่โหวตให้กับพรรคก้าวไกล กังวลว่าพรรคจะเอายังไงต่อไป? จะรวบรวมเสียงจากพรรคอื่นได้มากน้อยแค่ไหน? แถมยังมีกำแพง ส.ว. 250 เสียงมาขวางไว้อีกชั้นอีก เพราะถ้าเกิดต่อให้มีจำนวนเก้าอี้เยอะสุด แต่ถ้าเสียงในสภาไม่เกิน 375 เสียง ก็คงแพ้ได้เหมือนกัน

เช่นเดียวกับโหวตนายกฯเมื่อปี 2562 หรือ 4 ปีผ่านมา พรรคเพื่อไทยก็ได้โหวตจากประชาชนชิงเก้าอี้ ส.ส. มาได้เยอะสุดเหมือนกัน แต่ก็จบลงเพราะ ส.ว. ยกคะแนน 250 เสียง ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จนเป็นนายกคนปัจจุบัน

ทำให้สถานการณ์ตั้งแต่คืนที่ 14 ถึงเช้าวันที่ 15 พฤษภาคม มีการแชร์ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมากมายว่า ก้าวไกล จะจับมือกับพรรคไหนได้บ้าง หรือ เพื่อไทย จะยอมจับมือกับฝ่ายรัฐบาลชุดเก่าโค่นก้าวไกลอีกที

ส่งผลให้ในวันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาแถลงถึงผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยได้ระบุว่า

“พรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป… พร้อมที่จะเคารพและให้เกียรติทุกฝ่าย เพื่อประชาธิปไตย ขณะเดียวกันเราก็พร้อมคืนศรัทธาให้ระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา สร้างความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพให้ระบบการเมืองไทยและผู้แทนราษฎรทุกคน

โดยได้มีโอกาส ติดต่อไปหาแกนนำทั้งหมด 5 พรรคแล้ว ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย และพรรคเป็นธรรม ซึ่งคาดว่าจะได้เสียงในสภารวม 309 เสียง เพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก”

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ฝั่งของพิธาจะบอกว่ามีเสียงรวมแล้ว 300 กว่าเสียง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังกลัวฝั่งตรงข้ามจับมือกับ ส.ว. 250 เสียงอยู่ดี

ทำให้ตลอดทั้งวัน โลกอินเทอร์เน็ตได้ผุด #สวต้องเคารพเสียงประชาชน ขึ้นมากดดันสมาชิกวุฒิสภาทันที ก่อนที่เรื่องราวจะลุกเป็นไฟเปลี่ยนเป็น #สวมีไว้ทำไม โจมตีแบบโหมกระหน่ำกว่าเดิม

 

จาก #สวต้องเคารพเสียงประชาชน สู่ #สวมีไว้ทำไม 

โดยใน #สวต้องเคารพเสียงประชาชน ถูกพูดถึงจนได้อันดับคำยอดนิยมลากยาวข้ามคืน ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ที่พูดถึง มักจะเป็นข้อมูลวีรกรรมบรรดา ส.ว. ชุดนี้แบบจัดหนักจัดเต็ม

นอกจากนี้ เครือข่ายนักวิชาการเสียงประชาชนจาก 10 สถาบัน ร่วมกับเครือข่ายสื่อ 10 สำนัก ยังได้มีการเปิดโหวตออนไลน์สำรวจความเห็นจากคนกันเองด้วยเหมือนกันว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่  ส.ว.ทั้ง 250 คนควรที่จะเคารพเสียงประชาชนโดยต้องโหวตเลือกนายกฯตามเสียงข้างมากของ ส.ส. ?

รวมไปถึงในหน้าทีวี สื่อหลายเจ้าพุ่งประเด็นคำถามไปที่บรรดา ส.ว. ทั้งหลายว่า เกณฑ์การเลือกนายกรัฐมตรีปีนี้ ส.ว. มีจุดยืนอย่างไร หลังก้าวไกลชนะแบบถล่มทลาย

โดย ส.ว. ที่ตอบคำถามได้เป็นประเด็นมากที่สุด จนโซเชียลแตก มาจากคำตอบของ นายวันชัย สอนศิริ 1 ในสมาชิก ส.ว. ได้โฟนอินสัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ (ยามเย็น) โดยมี สรยุทธ สุทัศนะจินดา, ไก่ ภาษิต และ ตูน ปรินดา เป็นพิธีกร

ซึ่งในระหว่างการให้สัมภาษณ์นายวันชัย กล่าวว่า 

“พรรคอันดับ 1 ใช่ว่าจะได้เป็นรัฐบาล คนมักเข้าใจว่าใครที่มาเสียงอันดับ 1 ต้องเป็นรัฐบาล หากติดตามการเมืองมาตั้งแต่ในอดีต

อยากให้พรรคก้าวไกล รอจังหวะเหมาะดีๆ เป็นฝ่ายค้านไปก่อน เพราะเห็นว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ดี และอยากให้สะสมประสบการณ์ อาจจะให้เกิดความผิดพลาด เกิดความสะดุด รัฐบาลอาจจะมีอายุไม่ยืนยาว”

และยังเสนอแนะต่อว่า “ทำไมกองเชียร์ของพรรคก้าวไกล ไม่คิดจะผลักดันให้ไม่เป็นรัฐบาล ก็เป็นฝ่ายค้านก็ได้นี่”

สร้างความงงแก่ห้องส่งและคนดูเองว่าทำไม คุณส.ว.ถึงคิดแบบนั้น ทั้งๆที่คนกว่าสิบล้านคนโหวตให้ก้าวไกลเข้าสภาเป็นอันดับ 1 ก็หวังอยากให้เป็นรัฐบาลทั้งนั้น ทำไมต้องหวังให้เป็นฝ่ายค้านต่ออีก

นายวันชัย มีการพูดขู่ว่า มีพรรคการเมืองอื่นได้จับมือกันจนมีคะแนนกว่า 280 คะแนนแล้ว แต่ไม่บอกว่าเป็นพรรคไหน

รวมถึงมีอีกหลายส่วนของการสัมภาษณ์ที่นายวันชัย ได้ไล่ให้ พรรคก้าวไกล ไปจับมือกับ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ให้ครบ 375 เสียง ถ้าหากก้าวไกลอยากปิดสวิตซ์คะแนน ส.ว.

จนช่วงสุดท้ายของการให้สัมภาษณ์ นายวันชัย ก็ได้ทิ้งทวนไว้ว่า การจะเป็นนายกนั้น ไม่ได้อยู่ที่ความสามารถหรือนโยบาย แต่อยู่ที่การประสานกับ ส.ว.

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ประโยคนี้จะหมายถึงให้ก้าวไกลไปดีลลับอะไรกับ ส.ว. หรือเปล่า?

แต่ที่แน่ๆโลกโซเชียลได้ผุด #สวมีไว้ทำไม โจมตีใส่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พุ่งติดเทรนด์ยอดนิยมอันดับ 2 จนถึงเช้าวันถัดไป

ณ จุดๆนี้คงไม่ต้องถามว่าประชาชนคิดเห็นยังไงกันบ้าง เพราะทุกเสียง ทุกความเห็นถูกกาไว้ในบัตรเลือกตั้ง 39 ล้านเสียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ สมาชิกวุฒิสภา นี่แหละว่า จุดยืน 250 เสียง จะเป็นธรรมแค่ไหนกัน?

ติดตามดราม่าร้อนต่อได้ที่ สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น

ขอบคุณข้อมูลจาก : 

Youtube : “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” (ยามเย็น)

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube