ว่าที่นายกรัฐมนตรี“ทิม”พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือ”พ่อส้ม”ของด้อม เป็นแคนดิเดตเพียงหนึ่งเดียวแห่งค่ายก้าวไกล ที่กำลังก้าวย่าง ผ่านกองเพลิง ด่านส่วยอำนาจ บนเส้นทางสู่ เก้าอี้นายกคนที่ 30 ของไทย โดย “ทิม พิธา”ถูกวางไว้เป็น ศูนย์หน้าตัวเป้า ของ พรรคสีส้ม ที่ได้ลงนามMOUกันไปแล้วเรียบร้อย ด้วยข้อตกลง 23 วาระ 5 แนวทางปฏิบัติ 8 พรรคร่วม “รัฐบาลก้าวไกล” รวม 312 เสียง ยังขาดคะแนนรับรอง ตำแหน่งให้เกินกึ่งหนึ่งถึง 64 เสียงหรือ 376 คะแนนจากทั้งหมด 750 ที่นั่ง ในเวทีรัฐสภาซึ่งรวม 250 สว. ร่วมองค์ประชุมด้วย ..
เส้นทางสู่ตำแหน่งของ“พ่อส้ม”ไม่ได้สวยหรูเรียบง่าย รังแต่จะมีขวากหนาม ด่านหิน ต้องพบกับวิบากกรรม วางทุ่นระเบิดการเมือง เป็น กับดัก ที่ กลุ่มอำนาจเก่า เหล่ากอ “คสช.”บรรจงจัดวางไว้เพื่อรับมือสั่ง สังหาร ฝ่ายตรงข้าม ที่จะย่างกรายสู่ถนนการเมืองมาร่วมทศวรรษ ตั้งแต่ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจ รัฐบาลพลเรือน โดยตั้งคณะคสช.และให้จัดทำ ร่างรัฐธรรมนูญ เป็นกติกาสืบทอดอำนาจเรื่อยมา โดยให้ผุด องค์กรอิสระ ที่แต่งตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาพร้อมใช้งานตาม ข้อบังคับ ด้วย ช่อนเงื่อนผูกปม ไว้อย่างแยบยล..ปฏิบัติการสมรภูมินี้มี “คณะกรรมการเลือกตั้ง”(กกต.) และ “ศาลรัฐธรรมนูญ” เป็น 2 ด่านเปลี่ยนเกมการเมือง กระทั่งในขั้วรัฐบาลประชาธิปไตยกันเองก้าวไกลและเพื่อไทย..
“ทิม พิธา”จะต้องผ่านด่าน”กกต.”ซึ่งเป็น ผลไม้พิษ จากการแต่งตั้งโดยผ่านกระบวนการ กลุ่มเครือข่ายคสช.มีอำนาจประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรอย่างเป็นทางการ ภายใน 60 วัน ให้ได้อย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์หรือ 475 คนจากทั้งหมด 500 ที่นั่ง เพียงแต่ ผลแห่งการวินิจฉัยความ เชื่อได้ว่า แจกใบเหลือง แดง ส้ม หรือใบดำจะส่งผลกระทบต่อ สถานภาพพรรคการเมือง เสียงมากสุด ใน ขั้วประชาธิปไตย ยังคงเป็นก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทยกลับมาได้ส.ส.มากสุดแทน..
จากจำนวนส.ส.ผลอย่างไม่เป็นทางการห่างกันแค่ 10 เสียง 8 พรรคร่วมรัฐบาลยังจะเสนอ ”พิธา” ขึ้นชิงเก้าอี้นายกฯอยู่หรือไม่..รวมถึงตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนฯ ซึ่งจะเป็น ประธานรัฐสภา ในวันโหวตรับรองผู้สมควรดำรงค์ตำแหน่งนายกฯ
ถึงทางแยกวัดใจ ด่านกกต.คุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของ “ว่าที่นายกฯพิธา” ที่เคยปล่อยผ่านและได้รับการเลือกตั้ง ”พ่อส้ม” จะยังคง คุณสมบัติ ครบถ้วนหรือไม่ หรือหากถูก ใบสั่งสอย ให้สิ้นสถานภาพส.ส. จังหวะจะโคน ก่อนหรือหลังประกาศรับรองส.ส.อย่างเป็นทางการ หรือจะปล่อยผ่านไปสอยทีหลังจากประกาศรับรอง หรือผ่าน “ด่านลอย”ยาวไปถึงวาระสำคัญโหวตเลือกนายกฯในรัฐสภา..อย่างน้อย ฝ่ายตรงข้าม ใช้เป็นข้ออ้าง ในท่าทีไม่รับรอง “นายกฯพิธา”ที่ปมปัญหาค้างคานอกเหนือจาก ม.112 ที่ ก้าวไกลยอมงอ หนีการตกเป็นเป้านิ่งให้ถูกโจมตีแล้วก็ตาม..
ศาลรัฐธรรมนูญ ด่านสำคัญชี้ขาด “พิธา” ขาดคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.เป็น เผือกร้อน ส่งผ่านมาจากกกต.เพื่อให้ ตุลาการ ตัดสินโทษทางการเมือง หาก “พ่อส้ม” ขาดคุณสมบัติผู้สมัครส.ส.ถูกเว้นวรรคทางการเมืองจะส่งผลเป็นปมให้ขาดคุณสมบัตินายกฯไปด้วยหรือไม่..ยังไม่นับโทษทางอาญาอาจถึงขั้นจำคุก..เพียงแต่เกมทางการเมือง เขาจะเล่นกันถึงขั้นใหน หนักหรือเบากว่ารุ่นพี่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”..
การเดินทางบางครั้งระหว่างทางอาจสำคัญกว่าปลายทางก็ได้ เส้นทางการเมืองของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”สู่เป้าหมาย นายกรัฐมนตรี หากไม่ผ่านด่านใดด่านหนึ่ง ที่ฝ่ายอำนาจเก่าจัดวางกับดักขวางไว้อย่างได้ผล ถึงทางแยกทางการเมืองก้าวไกลที่ไม่มีแคนดิเดตนายกฯตัวสำรองหรือจำนวนส.ส.ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงไป จะยังตัดสินใจเดินร่วมทางจัดตั้งรัฐบาลไปกับ พรรคเพื่อไทย หรือไม่ หรือยอมรับสภาพวิบากกรรมส้มหล่นใส่ เพื่อไทย พรรคอันดับสอง ยังคงจุดยืนเดียวกันมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย กลืนเลือดพลัดหลุมลับลวงพราง..เข้าโหมดไฟต์บังคับ เกมการเมือง ส่ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หรือ “เศรษฐา ทวีสิน” ขึ้นชิงเก้าอี้ประมุขฝ่ายบริหาร ให้รัฐสภา โดยมีสว.ร่วมโหวตรับรองผู้สมควรเป็นนายกฯคนที่ 30 แทน พ่อส้ม “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”..
โลกแห่งจินตนาการทางการเมือง ดรีมทีมครม.อาจต่างจากโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งเร้นลับซับซ้อน การเกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น หากแต่มีการวางแผนจัดเตรียมการกันมาข้ามทศวรรษ ด้วยบททดสอบที่ผ่าน คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ โดยคสช.ถึงสองคณะก่อนถึงมือกฏหมายชั้นยอดสุด นาม “มีชัย ฤชุพันธุ์” เซียนเหยียบเมฆไร้ร่องรอย..
หลายล้านคะแนนเสียงจาก ปลายปากกาประชาชน อาจพ่ายแพ้ต่อเสียงเพียงหยิบมือจากกลิ่นควันปลายกระบอกปืน..!?
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
