เกิดภาพเหมือนผลัดกันรุกรับผ่าน “ปมคดีหุ้นสื่อITV” ในจังหวะ ยิ่งงวดใกล้จังหวะ กกต.ส่งสัญญาณเตรียมรับรองผลเลือกตั้ง หลังถูกม็อบทวงผ่านมาแล้ว 28 วัน ยังไร้วี่แวว
เกิดภาพเหมือนผลัดกันรุกรับผ่าน “ปมคดีหุ้นสื่อITV” ในจังหวะ ยิ่งงวดใกล้จังหวะ กกต.ส่งสัญญาณเตรียมรับรองผลเลือกตั้ง หลังถูกม็อบทวงผ่านมาแล้ว 28 วัน ยังไร้วี่แวว ในขณะก็มีอัตราเร่งในการ “เอาผิด” คดี คุณสมบัติ “พิธา”ถือหุ้นสื่อITV ที่เกิดขึ้นหลังรัฐบาลส้มส่งสัญญาณชัด เอาจริงกับการ “เช็กบิล” ไล่ฟัด “กลุ่มอำนาจเก่า” ฝ่าย“อนุรักษนิยม” ที่วันนี้มาแสดงพลังหนุนส.ว.250 หน้าสภาขวาง “พิธานายกฯ”
ทั้งผู้เคยก่อการรัฐประหาร และกลุ่มทุนขนาดใหญ่ผูกขาด ผ่านภาพการไล่ขยี้ขบวนการทุจริตคอรัปชันตั้งแต่ส่วยสติกเกอร์ ยันแวดวงตำรวจ “ตั๋วช้าง” แม้ศุกร์ที่ผ่านมากกต.จะยก 3 คำร้อง ของบรรดา “นักร้อง” แต่ก็ระบุว่าจะผิดอาญาตาม ม.151พรป.เลือกตั้งที่อาจใช้เวลา อย่างที่เลขากกต.ส่งสัญญาณทำนองปล่อยให้มีการรับรองพิธาเป็นส.ส.ไปก่อนค่อยสอย โดยยังมีกระบวนการสารตั้งต้นจากทั้งส.ส.หรือส.ว.เข้าชื่อยื่นส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
โดยวันนี้มี “เอฟเฟกต์” จาก “คลิปใหม่” การประชุมผู้ถือหุ้นITV ที่ “แยม ฐปณีย์” และเหล่าบรรดาศิษย์เก่าITV นำมาเปิดผ่านรายการ “ข่าวสามมิติ” เมื่อคืน “สรยุทธ์” เอามาขยี้ต่อตอนเช้า โดยไฮไลท์อยู่ที่การพยายามทำให้สังคมเห็นว่าเอกสารบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นITV ที่ เป็น “พยานหลักฐาน” ที่“เรืองไกร” ไปยื่นต่อกกต.ไม่ตรงกับการประชุมผู้ถือหุ้นทางออนไลน์ที่มี “นายคิมห์ สิริทวีชัย” ประธานที่ประชุมในวันนั้นโดยในคลิป นายคิมห์ อ่านคำถามจาก “ภานุวัฒน์ ขวัญยืน” มาด้วยตนเอง โดยนายภานุวัฒน์ ได้ถามคำถามว่า”
มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหมครับ” นายคิมห์ ตอบว่า “ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อนนะครับ” ในขณะที่เอกสารบันทึกการประชุมที่มีการรับรองและถูกนำมาเป็นหลักฐานของ “เรืองไกร” ระบุว่า นายภาณุวัฒน์ ผู้ถือหุ้นสอบถามว่า “itv มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่ออยู่หรือไม่”ประธานในที่ประชุม ตอบว่า “ปัจจุบันบริษัทยังมีการดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการ ส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ”
ทำให้หลังจากนั้นบรรดา “ตัวตึง” ของพรรคก้าวไกล อย่าง “วิโรจน์-โรม” ออกมาขยายผลจากคลิปการประชุมดังกล่าวว่าจะเป็น “หลักฐานสำคัญ” ว่ามีการทำเป็นขบวนการในการสกัด” พิธา” เป็น นายกฯ ที่ก็มีการเปิด “ตัวละคร” อย่าง” นิกต์” ผู้สมครส.ส.ของภูมิใจไทย ที่เคยเป็น “คนของพรรคอนาคตใหม่”
ออกมา ที่เจ้าตัวยอมรับผ่านรายการ “สรยุทธ์” อย่างแมนๆ ว่าเป็นผู้เปิดประเด็นนี้ และยอมรับว่า “ภานุวัฒน์” เป็นคนของตัวเองที่โอนหุ้นITV ซึ่งวันประชุมออนไลน์ก็นั่งประชุมกับ “ภานุวัฒน์” โดยอ้างว่ายังมี “คำถามนอกรอบ” กับทางกรรมการอีก ขณะที่ “เรืองไกร” ยังคงมั่นใจข้อมูล โดยมองว่าเรื่อง
“คลิปลับการประชุม”
ไม่ใช่ประเด็นหักล้าง ไม่ได้หมายถึงบันทึกการประชุมเท็จ แต่เป็นการจดบันทึกการ ประชุมที่คลาดเคลื่อน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผู้ถือหุ้นที่ตรวจพบหรือสงสัยว่ามีการบันทึกการประชุม คลาดเคลื่อน สามารถแจ้งไปยังบริษัทเพื่อแก้ไขบันทึกการประชุมได้ เป็นเรื่องระหว่างผู้ถือหุ้นกับบริษัทพร้อมระบุคลิปเสียงบันทึกการประชุมที่นำมาเปิดเผย ไม่ได้ทำให้น้ำหนักในการถือหุ้นไอทีวีซึ่งเป็น กิจการสื่อลดน้อยลงไป เพราะวัตถุประสงค์การจัดตั้งบริษัทที่จดแจ้งเอาไว้ ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนหรือยกเลิกไป ยังคงวัตถุประสงค์เดิมอยู่
ขณะที่ก้าวไกล มีการออกมาแถลง ของ “ชัยธวัช” ชี้เป้าไปที่ความผิดปกติมีพิรุธของบันทึกการประชุมที่ทำเป็นขบวนการในเรื่องนี้หรือไม่ จากที่ “นายนิกม์” มีการโพสFB ก่อนประชุมผู้ถือหุ้น ว่า“นักการเมืองที่กำลังถือหุ้น ITV เตรียมตัวประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี และมอบตัวกกต. ด้วยนะครับ หัวหน้าพรรคหนึ่งถือ 42,000 หุ้น” ก่อนที่10พ.ค.66 “เรืองไกร” ไปยื่นร้องกกต.แถมในวันประชุมผู้ถือหุ้นยังให้ “ภานุวัฒน์” ลูกน้องที่รับโอนหุ้นมาจาก “นิกม์” ตั้งคำถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี เพื่อต้องการให้ผู้บริหาร ของไอทีวีตอบว่าไอทีวียังดำเนินกิจการสื่อมวลชนอยู่ใช่หรือไม่ แต่เมื่อนายคิมห์ตอบคำถามในที่ประชุมว่า
ตอนนี้ไอทีวียังไม่มีการดำเนินกิจการสื่อ ภายหลังกลับมีการบันทึกการประชุมให้เข้าใจได้ว่าปัจจุบันไอทีวียังดำเนินกิจการสื่ออยู่ พฤติการณ์เช่นนี้เข้าข่ายการทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเท็จหรือไม่ และถือเป็นการทำผิดกฎหมายอีกหลายฉบับใช่หรือไม่ เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ผู้มีอำนาจใน ไอทีวี และผู้เกี่ยวข้อง ต้องตอบคำถามต่อสังคมให้ชัดเจน
ที่ก็น่าสนใจว่าประเด็น คลิปลับITVที่ออกมา ยังกระเพื่อมไปถึงกลุ่มบริษัท2-3 ราย ที่เกี่ยวข้องที่มีการรายงานว่าเปิดตลาดวันนี้หุ้นติดลบเล็กน้อย ทำให้ในช่วงสายมีการออกมายืนยันว่าจะมีการตรวจสอบเพื่อแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง ซึ่งปรากฏการณ์เอฟเฟกต์นี้ ถูกมองเป็นการไปตอกย้ำการประเมิน “ตัวละคร” และทุน ที่เชื่อมต่อเกี่ยวข้องกันแบบเคยมีข่าว “ดีลข้ามขั้ว” ก่อนหน้าจนถูกมองว่า กก.และพิธา ถูก “แทงข้างหลัง” และกำลังพยายามพลิกเกม หรือไม่.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews