ธงนำข่าว | “ประชาธิปไตย”หยิบมือ.!!
เลือกตั้งมานานกว่าเดือนด้วยเจตนารมณ์ของผู้คนที่ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงมากเป็นประวัติการณ์กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ กลับมีกลุ่มคนเพียงหยิบมือพยายามยื้อยุดสร้างตำนานการเมืองไทยเป็นชาติที่จัดการเลือกตั้งได้ช้านานสุดในปฐพี
แม้คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) จะทำภารกิจใหญ่เลือกตั้งทั่วไป เพียงครั้งเดียวในรอบ 4 ปี ยกเว้นมี การปฏิวัติหรือรัฐประหาร ประชาชนค่อนประเทศยังไม่รู้ผลผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดจะได้เข้าวินเป็นผู้แทนในสภาผู้แทนราษฏรหรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่เลือกตั้งจะได้เป็นตัวแทนเข้าไปดำรงตำแหน่งนายกฯ ฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรีบริหารบ้านเมืองหรือไม่..
ชะตากรรมคนส่วนใหญ่ของชาติ อยู่ในมือของคนเพียงไม่กี่คนจาก องค์กรอิสระ ที่ ฝ่ายอำนาจเก่า จัดวางไว้เป็น กับดัก ด่านส่วยอำนาจ ตามรัฐธรรมนูญที่เขียนเองใช้เอง หลังฉีกฉบับประชาธิปไตยเพื่อสกัดคู่แข่งทางการเมืองแบบไม่ใช่นักเลงพอในระบอบประชาธิปไตยถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์..
ภายหลังการเลือกตั้งเป็น ว่าที่ ส.ส. ว่าที่นายกฯ จะต้องผ่านด่านอีกมากมาย ทั้งด่านเถื่อน ด่านลอย ด่านถูกต้องตามกฎหมาย 250 สว.ลากตั้ง คณะกรรมการเลือกตั้ง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฏีกา ซึ่งเขียนกฎหมายเอง เปิดช่องให้จัดการกับ ฝ่ายตรงข้าม ได้เต็มที่ เหนือกว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชน โดยใช้เครื่องมือนักร้องเรียนอาชีพ เพียงไม่กี่รายเป็น สารตั้งต้น วาง ทุ่นระเบิด เรียงราย บนเส้นทางกำจัด ฝ่ายประชาธิปไตยก่อนเข้าสภา หรือ ทำเนียบรัฐบาล ที่ฝั่งได้เปรียบทางการเมืองเสพติดอำนาจหวงแหนตำแหน่ง ภายใต้ประชาธิปไตยเงามืดเผด็จการคสช.มาร่วมทศวรรษ..
การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ โดย กลุ่มนักเลือกตั้ง ภายใต้บัญชาการของ กลุ่มธุรกิจ ที่ทุ่มทุนสร้างอาณาจักรส่งตัวแทนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ชองประชาชนและประเทศชาติ ยังมีความพยายามส่ง นิติบริกรบางราย มาแอบอ้าง “อำนาจที่มองไม่เห็น” ชี้ช่องให้เป็นปัญหาอุปสรรคขัดขวางการเข้าทำหน้าที่ของ ขั้วรัฐบาลก้าวไกล อันมีผู้คนเกินกึ่งหนึ่งของประเทศเทคะแนนเสียงให้..
อุดมการณ์หรือจุดยืนเป็นจุดเด่นในองค์ประกอบสำคัญของความเป็นพรรคการเมืองซึ่งชี้ขาดและง่ายต่อตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชนที่ผ่านมาด้วยความมุ่งมั่นในอุดมคติตามนโยบายของพรรค หากแต่กลับเป็น อุปสรรคขัดขวาง กลุ่มทุนที่จะสูญเสียผลประโยชน์จาก นักธุรกิจการเมือง ที่คอยกัดกล่อนเกาะกินประเทศชาติมานานภายใต้ปีกรัฐบาลที่ไร้ความรู้ความสามารถพยายามวางกรอบเขียนกติกาเป็น ”ธุรกิจการเมือง” เข้าสู่ห้วง วงจรอุบาทว์ เป็น “เงื่อนไข” ให้เกิด “การรัฐประหาร”หรือยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน โดยอ้าง เผด็จการรัฐสภา อย่างที่ผ่านมา
ขณะที่กำลังเดินเกมให้ “รัฐบาลก้าวไกล” เข้าเงื่อนซ้ำรอย หาก ”พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ไม่สามารถผ่านด่านสว.อีก 64 คนจนต้องดึงพรรคการเมืองเข้าร่วมให้ได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งเบ็ดเสร็จของทั้งสองสภาหรือ 376 เสียง..หรืออาจมีคนคิดสู้ แพ้เลือกตั้งแต่อยากชนะสงคราม เสนอชื่อขั้วอำนาจเก่า ชิงเก้าอี้นายกเป็น รัฐบาลเสียงข้างน้อย ประจานความเป็น ไทยแลนด์หนึ่งเดียวในโลก..สงสารประเทศชาติ เอ็นดูประชาชน
“พิธา” กำลังผจญ ”มาร” ทุกด้าน ทุกดอก ทุกเม็ด หลังจากการประกาศมาตรการจะจัดการกับ กลุ่มทุน หรือ กลุ่มผลประโยชน์ ที่ใช้ นักการเมือง เป็น “เบี้ย”เข้ามาตักตวงเอารัดเอาเปรียบสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะ ด้านพลังงาน ค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน กระทั่งสังคมปากท้องความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ลงทุนเข้าไปการบริหารจัดการ สร้างพยาน ในบริษัท itv วางหมากเดินเกม เพื่อสกัด ทุกด่านอรหันต์ที่ถูกจัดวางเรียงไว้ แต่อาจไม่เนียนพอ พยายามใช้ทุกกลวิธีเพื่อไม่ให้สูญเสีย ยังหวังสวาปามผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องจน กลุ่มทุนพลังงานยักษ์ใหญ่บางราย ร่ำรวยอู้ฟู่ไต่อันดับขึ้นเป็นรายต้นๆของประเทศด้วยเวลาอันรวดเร็ว..
มารไม่มี บารมีไม่เกิด นักปราชญ์ท่านว่า เจอมารอย่าท้อแท้จงใช้ชีวิตไปกับมัน เป็นแง่คิดเพื่อให้กำลังใจแก่คนที่กำลังโดนปัญหามรสุมชีวิตมาโหมกระหน่ำเข้าใส่หรือมารุมเร้า หรือเมื่อมีมารมาผจญ เราไม่ควรก้มหัว มารเป็นศัตรูที่คอยกลั่นแกล้ง แต่ก็เป็น บททดสอบ ที่จะต้องต่อสู้ฟันฝ่าไปให้จงได้ด้วยความอดทน แม้จะมีความพยายามแทรกซึมชี้แนะให้”พิธา”ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. แล้วจะไปเกี่ยวอะไรกับกับปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯที่จะเสนอชื่อโหวตรับรองในรัฐสภา..
นักกฎหมายชื่อดังกล่าวเตือนไว้ เรื่องหุ้นitv ถ้าจะมีใครติดคุกต้องอาศัยม.143 มากกว่า ม.151 ตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญต้องระวังโทษจำคุกหรือปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น หรือถ้าการกระทำหรือก่อให้ผู้อื่นกระทำหรือรู้เห็นเป็นใจของหัวหน้าพรรคการเมือง หรือ กรรมการบริหารพรรค ให้ถือว่า พรรคการเมืองนั้น กระทำอันเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักรโทษถึงขั้นยุบพรรค..วันพระไม่ได้มีหนเดียว คิดทำการใหญ่ ใจต้องนิ่ง ..!!
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews