ฝ่ายค้านคาดพิจารณาพรบ. ออกเสียงประชามติ วาระ 2 หลังพิจารณาร่าง รธน. พร้อมเสนอให้มีการออกเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมเพื่อความโปร่งใส
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานการประชุม พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ได้ผ่านสภาในวาระแรกแล้ว และคณะกรรมาธิการได้มีการพิจารณาแล้วเสร็จแล้ว เตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาในวาระ 2 ต่อไปว่า คาดว่า ในการพิจารณาในวาระ 2 จะเกิดขึ้นในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ หลังจากการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ โดยพรรคฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกันว่าการ ออกเสียงประชามติ ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสทั่วถึงและเที่ยงธรรม ป้องกันการทุจริตได้ ซึ่งได้มีการเสนอให้มีการออกเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติม รวมถึงการออกเสียงทางไปรษณีย์, การออกเสียงนอกราชอาณาจักร และนอกเขตได้ โดยข้อเสนอทั้งหมดคณะกรรมการเห็นชอบ
สำหรับบทลงโทษของร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และมีการทุจริตเกิดขึ้น จะรุนแรงกว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ซึ่งมีปัญหาในการตีความได้กว้างและลึกเกินไป ทำให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแบบครอบจักรวาล เช่น ก่อความวุ่นวายในการออกเสียงประชามติ
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านกฎหมาย ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้มีการเสนอเพิ่มถ้อยคำจากเดิมที่มีเพียงคำว่าสุจริตและเที่ยงธรรม เพิ่มคำว่าเสรีและเสมอภาค ด้วยเพราะการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องความเสมอภาค พร้อมเห็นว่าควรเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง ภาคประชาชน เอกชน ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ร่วมรณรงค์สร้างความเข้าใจให้ประชาชน ได้อย่างเต็มที่ โดยให้ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ฝ่ายค้าน ย้ำสภาต้องเดินหน้าพิจารณาโหวตร่าง รธน.วาระ 3 ต่อ ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวถึง การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า หัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ยังคงขอสงวนท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะขอพิจารณาคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 11 มีนาคมนี้ก่อน ว่าจะออกมาอย่างไร ยืนยันหากแนวทางออกมาอย่างไรก็จะถามประชาชน
ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านกฎหมาย หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในแนวทางที่เป็นคุณต่อผู้เสนอญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีทั้งร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ร่างของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และร่างที่ภาคประชาชนเสนอ ซึ่งมีหลักการเดียวกันในการแก้ไขมาตรา 256 และการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) เพื่อยกร่างฉบับใหม่ เนื่องจากทุกภาคส่วนต่างเห็นว่ารัฐธรรมนูนฉบับปัจจุบัน ยังเป็นปัญหา และทางออกของประเทศจะต้องมีการยกร่างฉบับใหม่ พร้อมย้ำว่าไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาทางใดในวันที่ 11 มีนาคมนี้ ฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐสภาจะต้องเดินหน้าในการพิจารณาโหวตวาระ 3 ต่อไป
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เชื่อมั่นว่าสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะกลุ่ม ส.ว. จะโหวตผ่านในวาระที่ 3 เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ
“ประเสริฐ” เผยฝ่ายค้านจ่อยื่นปปช.สอบ “บิ๊กตู่ – จุรินทร์” 10 มี.ค.นี้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการ เตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่น 7 รัฐมนตรี หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างให้ฝ่ายกฎหมายร่างคำร้อง ซึ่งบางคนจะถูกยื่นตรวจสอบทั้ง 2 หน่วยงาน หากคำร้องคนใดเสร็จก่อนก็ยื่นก่อน เบื้องต้นในวันที่ 10 มีนาคมนี้จะไปยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ กับนายจุรินทร์ก่อน
“ชลน่าน” ชี้ ครม.ต้องเสนอร่างพรก.ก่อนเปิดประชุมสภา ขณะฝ่ายค้านรอดูท่าทีศาลรธน.ตีความตั้งสรร.แก้รธน. มองเป็นไปได้หลางแนวทาง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า หากจะให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญทัน 17-18 มี.ค. คณะรัฐมนตรีจะต้องเสนอพระราชกฤษฎีกาตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.ซึ่งจากการหารือประธานรัฐสภา ยืนยันว่า ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร หากสุดท้ายไม่สามารถนำร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาได้ ประธานก็จะเอาเรื่องอื่นเข้าสู่การพิจารณาแทน เพื่อให้การประชุมสมัยวิสามัญเดินหน้าไปได้ เว้นแต่คณะรัฐมนตรีจะไม่ยอมออกพระราชกฤษฎีกาให้
ขณะเดียวกัน นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ในส่วนของฝ่ายค้าน ยังรอดูท่าทีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร เพราะแนวทางวินิจฉัยออกมาได้หลายแนวทาง เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้รัฐสภาอาจไม่มีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ หรืออาจจะแก้ไขเพิ่มเติมได้ แต่มีข้อแม้ เช่น ต้องไปทำประชามติถามประชาชนก่อนว่า จะให้ร่างฉบับใหม่ได้หรือไม่ และหลังจากนี้ฝ่ายค้านจะหารือกันว่าหากไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ ก็ต้องใช้วิธีการแก้ไขเป็นรายมาตราแทน โดยเฉพาะการนำ 4 ร่างเดิมของพรรคเพื่อไทยที่ได้เสนอแก้ไปก่อนหน้านี้และถูกรัฐสภาตีตก นำกลับขึ้นมาเสนอญัตติต่อรัฐสภาอีกครั้งในสมัยประชุมหน้าเพราะตามเงื่อนไขของข้อบังคับเปิดโอกาสให้ทำได้เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของระบบเลือกตั้ง อำนาจหน้าที่ของ ส.ว. และที่มาของนายกรัฐมนตรีให้เกิดขึ้นได้ก่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
