ล่าสุดที่ สถาบันการจัดการนานาชาติ หรือ IMD รายงานผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ประจำปี 2566 โดยไทย อยู่ในอันดับที่ 30 ดีขึ้น 3 อันดับจากปีก่อน
โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การจัดอันดับในครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา พูดได้ว่าประสบความสำเร็จ
ซึ่งเกณฑ์การประเมินดีขึ้นเกือบทุกรายการ โดยปัจจัยหลักทั้ง 4 กลุ่ม คือ สมรรถนะทางเศรษฐกิจ อยู่อันดับที่ 16 ดีขึ้น 18 อันดับ จากปี 2565 อยู่อันดับที่ 34 ประสิทธิภาพภาครัฐ อยู่อันดับที่ 24 ดีขึ้น 7 อันดับ จากปี 2565 อยู่อันดับที่ 31 ประสิทธิภาพภาคธุรกิจ อยู่อันดับที่ 23 ดีขึ้น 7 อันดับ จากปี 2565 อยู่อันดับที่ 30 และ โครงสร้างพื้นฐาน อยู่อันดับที่ 43 ดีขึ้น 1 อันดับ แต่มีปัจจัยย่อยด้านการศึกษา สุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิทยาศาสตร์ มีอันดับที่ลดลง ซึ่งจะต้องเดินหน้าปรับปรุงต่อไป
และจำเป็นที่รัฐบาลใหม่จะต้องสานต่อ โดยไม่มีเหตุผลใดที่ควรยกเลิก เพราะจะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ดีขึ้นลดลงได้ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศเวลานี้เงินเฟ้อค่อนข้างต่ำไม่น่าห่วงนัก และดัชนีความเชื่อมั่นยังสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้การส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกจะยังไม่ดีนัก แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากมีแผนผลักดันการส่งออกอย่างต่อเนื่องร่วมกับภาคเอกชน
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยดีขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามของภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมกันปรับปรุงนโยบายและกฎระเบียบต่าง ๆให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของบริบทต่าง ๆ หลังฟื้นตัวจากโควิด 19 มาถูกทางแล้ว
แต่สำหรับปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน แม้อันดับจะดีขึ้น แต่ปัจจัยย่อยด้านวิทยาศาสตร์ ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านการศึกษา มีอันดับที่ลดลง เป็นเพราะที่ผ่านมาประเทศไทยพยายามผลักดัน BGG โมเดล แต่ในประเด็นดังกล่าวอาจจะยังไม่ตอบสนองต่อตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจ และส่งเสริมโมเดลดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในประเทศทั้งเรื่องต้นทุนพลังงานที่จำเป็นต้องปรับปรุงให้สามารถแข่งขันได้ เพราะยังถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews