ค้าชายแดน10เดือนมูลค่าทะลุ1ล้านล้านบาท

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ช่วง 10 เดือนแรก ของปี 2563 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 1.08 ล้านล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ แม้ว่ามูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เวลานี้เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการติดลบที่ลดลง โดยมาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 1.98 แสนล้านบาท ลดลง ร้อยละ 14.67 รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่ากว่า 1.56 แสนล้านบาท ลดลง ร้อยละ 5.21 เมียนมา มูลค่ากว่า 1.37 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 14.85 และกัมพูชา มูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.16 โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ในด้านการค้าผ่านแดนไปยัง จีน สิงคโปร์ เวียดนาม พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 1.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.06 โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ยางพารา และจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่สองในเมียนมา ส่งผลให้จังหวัดชายแดนของไทยด้านประเทศเมียนมาได้เพิ่มความเข้มงวดในการบริหารจัดการการขนส่งสินค้าข้ามแดน โดยในเดือนตุลาคม 2563 จังหวัดตากได้มีคำสั่งระงับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าตามแนวชายแดนจังหวัดตากเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 18 – 25 ตุลาคม เพื่อจัดระเบียบการขนส่งสินค้าบริเวณชายแดน ซึ่งจังหวัดตากได้กำหนดให้มีจุดขนถ่ายสินค้าปลอดภัยในบริเวณคลังสินค้าศุลกากร (Safety Zone) พร้อมมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติในพื้นที่จังหวัดตาก ส่งผลให้เดือนตุลาคม 2563 มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา ณ ด่านศุลกากรแม่สอดมีมูลค่าเพียง 3,524 ล้านบาท อย่างไรก็ดี คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน มูลค่าการค้า ณ ด่านศุลกากรแม่สอดจะเพิ่มกลับมาดังเดิม และล่าสุด ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ไทยมีการเปิดทำการจุดผ่านแดนเพื่อการขนส่งสินค้ารวมทั้งสิ้น 37 แห่ง จาก 97 แห่งทั่วประเทศ