สถานการณ์บ้านเมืองยิ่งทวีความเข้มข้น สภาพการณ์การต่อสู้ทางการเมืองในรัฐสภาระบอบประชาธิปไตยเปิดเกม “นิติสงคราม” ยิ่งกว่าการทำ “รัฐประหาร” กลางสภา กลุ่มกำลังลากตั้ง ยึดอำนาจริบหน้าที่ “ทิม” พาธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แห่งค่ายก้าวไกล ต้องโบกมือลาเดินออกนอกห้องประชุม ขณะกำลังถูกเสนอชื่อเพื่อโหวตรับรองเป็นนายกฯคนที่ 30 โดยสรรพกำลังและแสนยานุภาพจากคลังคสช.มรดกสมัยทำการปฏิวัติรัฐบาลพลเรือน มาร่วมทศวรรษ ช็อตฟีล “ด้อมส้ม” จากกลิ่นอายความเจริญแห่งเปลี่ยนแปลงประเทศถูกคำสั่ง “ส้มหยุด” ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ “ประชามติลักหลับ” สถานการณ์การเมือง ถูกผลักเข้ามุมอับ เปิดสมรภูมิรบจาก เวทีรัฐสภา ลงสู่ท้องถนนแทน..
“ปิดเกมพิธา” ในระบบรัฐสภาแบบพวกมากลากไป ใช้เสียง วุฒิสมาชิกแต่งตั้ง ในสถานการณ์ไม่ปกติบทเฉพาะกาลพ่วงข้าง วางกับดัก ฝังทุ่นระเบิด ปิดเส้นทาง “พิธา” จากพรรคการเมืองคะแนนเสียงสูงสุดในการเลือกตั้ง..ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” สู่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แค่นั้นยังไม่พอ ถูกข้อหาล้มล้างการปกครองฐานชูนโยบาย ม.112 คดีขึ้นเขียงรอเชือดซ้ำอยู่ในขึ้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ โทษหนักถึงยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10 ปีอย่างที่ลูกพี่ “ธนาธร”และพวกกำลังชดใช้โทษทัณฑ์..
เริ่มสร้างสตอรี่เป็น “สารตั้งต้น” จาก คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ส่งลูกต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ(ศร.)เป็นเหตุผลให้วุฒิสมาชิกลากตั้ง(สว.)หยุดพรรคก้าวไกล วางงาน เป็นกระบวนการเป็นขั้นตามจังหวะจะโคน ไทม์มิ่งลงตัวแบบไม่ได้บังเอิญชงกันเองกินกันเอง ซึ่งเจ้าของสิทธิ์ที่เลือกตั้งผู้แทนฯเข้ามาอาจมองเป็นการกระทำย่ำยี ขยี้ซ้ำ ตั้งปมเปิดประเด็น ศรีธนญชัย อภิปรายใช้ เสียงมากกว่า ตัดสินข้อกฎหมายเพียงคำว่า “ญัตติ” ทันเวลาฟ้าผ่ากลางสภา ศาลสั่ง “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่สส.ขณะถูกเสนอชื่อโหวตรับรองเป็นนายกเป็น “ญัตติซ้ำ” ทำไม่ได้ ทั้งๆที่ “รัฐธรรมนูญ”ย่อมใหญ่ข้อบังคับสภา ถูกเตะตัดขาไม่สามารถเดินต่อได้ ปู้ยี้ปู้ยำ หัวใจด้อมส้ม เพียงเพื่อชัยชนะของฝ่ายตนทั้งที่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว หาก ประธานรัฐสภา วินิฉัยชี้ขาดข้อกฏหมายความก็คงจบ แบบไร้ข้อกังขานัยทางการเมือง
เกมเดินเข้าทาง “เพื่อไทย” โดยสมบูรณ์ ถึงเวลาจะต้องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกให้รัฐสภารับรองเป็นไฟต์บังคับตามที่ต้องการ 27 กรกฏาคม อาจจะเป็น “เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หรือ “ชัยเกษม นิติศิริ” ใครก่อนหลัง ภายใต้เงื่อนไขใหม่ เสนอ “ญัตติซ้ำ”ไม่ได้ จะเลือกแบบสละเรือรักษาขุนเสนอชื่อพลีชีพ เพื่อหยั่งคะแนนโหวตเกิน 375 เสียง หรือเปิดเกมอำมหิตพลักมิตรเป็นศัตรูม้วนเดียวจบ ถอนหมุดจุดยืนเฉด “พรรคก้าวไกล”ออกไปเป็นฝ่ายค้าน ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว แบบ “มีเราและมีลุง” เป็น “ประชาธิปไตยจำแลง” แต่เสี่ยงสูงต่อการบริหารบ้านเมืองยาก ท่ามกลางความขัดแย้งแตกแยก กองเชียร์แดงอาจกลับใจสมทบม็อบด้อมส้มลงถนนขับไล่เป็นรัฐบาลอายุสั้น หรือ ยังจะอดทนกัดก้อนเกลือกิน เป็น ทฤษฏีข้าวต้มมัด หนักแน่นไปใหนไปกัน ไม่หลงโจทก์หลอก ใครกล้าตั้ง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย”ก็อยู่ได้ไม่นาน ปัญหา “ตราปาบ”อยู่ที่คสช.แม้ผลกรรมอยู่ที่ประชาชน แต่ คนผูกต้องแก้ ไม่หลงเกมเข้าไปเล่นตามกติกาที่เขาเขียน
โหมดการเมืองขับเคลื่อนจากสมรภูมิรบแบบเก่า สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น ดูเหมือนเป็นความขัดแย้งในเชิงอุดมการณ์สวยหรูดูดี ด้วยแรงศรัทธา แต่แท้จริงเบื้องหลังเป็นขับเคลื่อนของ “กลุ่มทุน”ในระบบ “ธนกิจการเมือง” ที่พยายามต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์ มูลค่ามหาศาลจากความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งวัดเป็นราคาค่ากล้วยต่อหวีต่อหัวเพียงน้อยนิด หากแต่มูลค่าทางจิตใจที่มิอาจยั่งลึกวัดได้ในความรู้สึกชังชาติตามเดิมพัน ตีราคาค่าหุ้นคืนทุน ที่สูญเสียหากขวาง “พิธา” ไม่ให้ขึ้นเป็นนายกได้สำเร็จก็เกินคุ้ม กับนโยบายการจัดหนักกับ “กลุ่มทุนผูกขาด”ปรสิตคอยกัดกินเลือดเนื้อของผู้คนในรูปของค่าครองชีพ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น
ภายใต้ข้ออ้างการเมืองไม่ปกติที่วางแผนผุด “นักลากตั้ง”กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนโดยไม่จำเป็นต้องยึดโยงกับเสียงข้างมาก ขึ้นมาปิดเส้นทาง “พิธา” เดินเบี้ยนักลากตั้งผู้แทนกลุ่มทุนผูกขาดอธิบายความคนละเรื่องเดียวกันได้ เนียนกริ๊บ กับการแก้ไขกฏหมายมาตราสำคัญให้ดูดีมีชอบธรรม กินกล้วยอิ่มหมีพีมันกันถ้วนทั่ว..รักเท่าไหร่ให้เขียนมา..
การบริหารเกมทางการเมือง สอดรับกับสถานการณ์ในตลาดหุ้นตลาดทุน หุ้นบางตัวขึ้นลงผกผันกับจังหวะโอกาสพิธาจะได้หรือไม่ได้รับรองเป็นนายกฯ ทั้งกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตไฟฟ้าหรือกลุ่มบริษัทพลังงาน ทุนกลุ่มน้ำเมา กระทั่งทุนที่กำลังไหลสู่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งตลาดส่วนใหญ่อยู่ในการครอบครองของกลุ่มการเมืองที่กำลังจะผันตัวไปเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่
วัฎจักรการเมืองรัฐบาลโดยทั่วไปจะมีช่วงฮันนิมูลอยู่ระหว่าง 1 ขวบปี หากแต่ เพื่อไทย คิดผสมพันธุ์ข้ามขั้วแค่เริ่มต้นจัดตั้งรัฐบาลก็ติดลบ การบริหารบ้านเมืองภายใต้ กลุ่มทุนการเมือง การแก่งแย่งชิงผลประโยชน์วนว่ายตายเกิดอยู่ในระบบ “ธุรกิจการเมือง” ..การลบหลู่ความเชื่อ ทำลายความศรัทธาของประชาชน รอวันบ้านเมืองรังแต่จะลุกเป็นไฟ ทางกลับกันหาก ก้าวไกล จะถอนวงออกมาเป็น ฝ่ายค้าน ไม่เห็นดีใน สูตรรัฐบาลสายพันธุ์ปรสิต เพื่อการกลับมายิ่งใหญ่กว่าในฤดูกาลเลือกตั้งหน้ารอรับผลคะแนนด้อมส้มวัยแรกแย้มเลือกตั้งเสียงแรก หนุ่มสาวจากรั้วโรงเรียนเข้าสู่มหาวิทยาลัยที่เพิ่มขึ้นและไร้ซึ่งสว.ลากตั้งมาขัดขวาง หากจะคิดการใหญ่อย่าว่าแต่เพียงแก้ไข จะยกเลิกกฎหมายฉบับใด หรือ ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็ย่อมได้ วันนั้นของคนพรรคก้าวไกลจะมาถึง เส้นทางสะดวก..ชัวร์..!!
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
