ไม่แต่แค่แฟนคลับเพื่อไทย ที่ส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดง หรือ แม้แต่ “ด้อมส้ม” แฟนคลับก้าวไกล ที่ไม่พอใจอยู่แล้วกับการข้ามขั้วของ เพื่อไทย หรือแม้กระทั่ง “ม็อบเด็กทะลุวัง”
ไม่แต่แค่แฟนคลับเพื่อไทย ที่ส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดง หรือ แม้แต่ “ด้อมส้ม” แฟนคลับก้าวไกล ที่ไม่พอใจอยู่แล้วกับการข้ามขั้วของ เพื่อไทย หรือแม้กระทั่ง “ม็อบเด็กทะลุวัง” ที่แสดงปฏิกิริยาต้านแบบฉับพลันรุนแรงบุกปิดทางเข้าออกด่านรมต.ท่องเที่ยวของภูมิใจไทย จน “ลุงข้างบ้าน” และผู้คนโจษขาน หากแต่ ข้ออธิบายของ “หมอชลน่าน”ในการชิงตั้งรัฐบาลเบื้องต้นเมื่อวาน (7ส.ค.) ด้วยการผนึกเสียงระหว่าง เพื่อไทย (พท.) 141 กับ ภูมิใจไทย (ภท.)71 เป็น 212 โดยชู “เศรษฐา” เป็นนายกฯ และ ประกาศจะเป็นรัฐบาลที่ไม่มี “2ลุง”
ในจังหวะที่ “ก้าวไกล” ไม่ละความพยายาม โบกมือดัก กวักมือเรียก ให้ยอมเสียหน้าดีกว่าเสียทั้งหมด กลับไปผนึก8พรรค 312 เสียง เมื่อถูกถามถึง ความหลังการเป็นคู่แข่งหาเสียงในอีสานถึงขนาด เพื่อไทย มีการจัดแคมเปญ ม็อตโต้ “ไล่หนู-ตีงูเห่า” พุ่งเป้าโจมตีผู้สมัครภูมิใจไทย ที่ “หมอชลน่าน” แจงทำนอง “ไล่หนูตีงูเห่า เป็นภาพของการรณรงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง กิจกรรมแต่ละครั้งจัดบนวัตถุประสงค์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ” ที่เราไปขอเสียง สนับสนุนจากพี่น้องประชาชน”
ที่ด้านหนึ่งแม้แฟนคลับที่ยังเหนียวแน่นกับเพื่อไทย จะบอกว่าพอรับได้ แต่ก็เกิดกระแสตีกลับจากสังคมในหลายแวดวงไม่น้อย จน เพื่อไทย กลายเป็น ตำบลกระสุนตก อย่างที่ปรากฏ ม็อบแท็กซี่แดงกินส้ม ที่ไปคืนเสื้อเผาบัตรที่หน้าพรรควันนี้ (8ส.ค.) โดยเฉพาะในประเด็นที่ตีความกันไปแล้ว ว่า บรรดานโยบาย ที่เพื่อไทยไปหาเสียงกับประชาชน จนได้รับเลือกตั้งมา
เป็นเพียงแค่การรณรงค์ให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติจริงหรือไม่ ที่เรื่องนี้กำลังถูกขยายให้บานปลายอย่างที่ “เรืองไกร”นักร้องไปยื่นร้องให้ กกต.ตรวจสอบ”หมอชลน่าน” กับพวก ฝ่าฝืน พ.ร.ป. สส. ม.73 (5) ที่บอกหาเสียง “ไล่หนูตีงูเห่า”จะ ถือเป็นภาพรณรงค์ เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง ด้วยวิธีการหลอกลวง จูงใจให้เข้าใจผิด หรือไม่
ยิ่งเมื่อเริ่มมีการ นำมาเทียบเคียงกับ “ม็อตโต้” “มีลุงไม่มีเรา-มีเราไม่มีลุง” อย่างที่ “อ.สมชัย” แซว ว่า “ที่บอกว่าไม่มีลุง เดี๋ยวลุงก็มา เชื่อเหอะ” ที่ ต้องยอมรับแม้ “มีลุงไม่มีเรา” จะเป็น “แคมเปญม็อตโต้หาเสียง”ของ พรรคก้าวไกล จนชนะเลือกตั้งที่ 151 เสียง แต่ก็เป็นอานิสงส์สำคัญที่ทำให้ เพื่อไทย ที่ภายหลังแสดง
ความชัดเจน ได้รับคะแนนเสียงมาอันดับ2 ที่141 เสียง ทำให้ พรรคฝ่ายประชาธิปไตย รวมเสียงกันได้312 เสียง ชนะพรรครัฐบาลเดิมที่รวมเสียงได้เพียง188 เสียง โดยพอยน์นี้ ถือเป็นประเด็นสำคัญในการ รวมเสียงของ เพื่อไทย-ภูมิใจไทย 212 ให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง250ของสภาล่าง ที่ยังขาดอีก 38 เสียง
แม้จะมีข่าว ชาติไทยพัฒนา10 และ ประชาชาติ9 รวมถึงพรรคเล็กๆ จะมาวันนี้วันพรุ่ง ก็ยังถือว่ารัฐบาลเพื่อไทยกับหนู ยังปริ่มๆ น้ำ หากไม่ใช้บริการส.ส.จากพรรค2 ลุง อย่างที่ “พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์” จากเสรีรวมไทย บอกว่า “มีลุงไม่มีเรา” ก็แค่เป็นการหาเสียง ของก้าวไกล ส่วน เพื่อไทย ที่พ้นจากขั้วเดิม มาแล้ว ไม่ควรไปยึดติดเพราะไม่ถือเป็น “สัญญา” เหมือน “นโยบายหาเสียง” ยิ่งตัวแม่ทัพคือ2ลุง คนหนึ่ง ตายคือวางมือการเมือง หรืออีกคนหนึ่งยอมแพ้ไปแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยให้ ไพร่พล คือ รวมไทยสร้างชาติ หรือ พลังประชารัฐ (พปชร.) เสียของ แต่ควรนำมาใช้ในการรวมเสียงตั้งรัฐบาล
ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมกับ “พรรคสว.250” ที่แบ่งส่วนอันเดอร์ 2 ลุง ที่หลายฝ่ายจับตาหาก “ไม่มีลุง”จะ “ไม่มีสว.ด้วยหรือไม่ ยิ่ง เริ่มมีสว.บางส่วนไม่แค่เพียงการ “ตั้งแง่” กับ “เศรษฐา” เรื่อง “คุณสมบัติ” กรณี ถูก “ชูวิทย์” แฉการซื้อที่ดินเลี่ยงภาษี หากแต่ยังมีการตั้งแง่ ในเรื่องของการจะ แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้ง สสร.เป็นประเดิมของเพื่อไทย อย่างที่ “สว.สมเจตน์” ออกมาประกาศไม่หนุน นายกฯจากเพื่อไทย เพราะข้องใจการเสนอแก้ไข รธน.เป็นงานแรก ก่อนแก้ปัญหาปากท้อง โดยตั้งข้อสงสัยทำไมให้ความ
สำคัญต่อร่างรัฐธรรมนูญเป็นวาระเร่งด่วนมากกว่าการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องหรือเพราะ รธน.60 เป็น อุปสรรคกับของนายทุนเจ้าของพรรคเพื่อไทย ทำให้ไม่สามารถกลับประเทศไทย ได้อย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุก.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
