Home
|
เศรษฐกิจ

อย.- ส.อ.ท. ลงนามขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ

Featured Image
อย. ผนึก ส.อ.ท. ลงนามขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยกระดับความปลอดภัยผู้บริโภคด้วยบาร์โค้ดสองมิติ

 

 

 

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนและต่อยอดการพัฒนาธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ ระหว่างส.อ.ท. และอย. มุ่งยกระดับความปลอดภัยของผู้บริโภคให้ได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และตรงตามมาตรฐานสากลด้วยการใช้เทคโนโลยีบาร์โค้ดสองมิติ GS1 DataMatrix และ QR Code – GS1 Digital Link URI

 

โดยนายเกรียงไกร กล่าวว่า อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สุขภาพในประเทศไทยที่จะพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในทุกมิติ ทั้งด้านบุคลากร สถานที่ และทรัพยากร ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การค้า และการลงทุนด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเป็นที่ยอมรับในสากล

 

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศไทยมีศักยภาพ และต่อยอดขีดความสามารถให้แข่งขันกับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และให้คนไทยได้มีโอกาสที่จะได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพ ปลอดภัย จึงเป็นที่มาของการกำหนดแนวทางความร่วมมือร่วมกันของ ส.อ.ท. และ อย. ผ่านการทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนครั้งนี้

 

โดยทาง ส.อ.ท. จะเร่งมุ่งส่งเสริมและผลักดันการยกระดับคุณภาพในการผลิตของสมาชิก ส.อ.ท. ทั้ง 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 11 คลัสเตอร์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากล และจะขับเคลื่อนการนำระบบมาตรฐานสากล GS1 ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านหน่วยงาน สถาบันรหัสสากล หรือ GS1 Thailand เพื่อช่วยให้ซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพเกิดความโปร่งใส เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย

 

 

ด้านนายแพทย์ไพศาล กล่าวว่า ที่ผ่านมา อย. และสถาบันรหัสสากล ได้ร่วมมือกันใช้มาตรฐานสากล GS1 ในหลายผลิตภัณฑ์ โดยในปี 2563 ได้มีการใช้กับผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับและติดตามการกระจายในระดับรายชิ้นได้ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วทั้งในประเทศและต่างประทศ รวมไปถึงในปี 2564 ได้จัดทำคู่มือเพื่อเป็นคำแนะนำเบื้องต้นในการใช้มาตรฐานสากล GS1 สำหรับใช้ติดตามการกระจายวัคซีนโควิด-19 และตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยของวัคซีน

 

 

นอกจากนี้ ในปี 2566 ยังได้นำมาตรฐานสากล GS1 (QR Code) มาใช้ในการจัดการฉลากยาอิเล็กทรอนิคส์ (e-Labelling) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และรวดเร็ว สำหรับในระยะต่อไป ทั้ง 2 หน่วยงาน จะร่วมมือกันพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับและการป้องกันการปลอมแปลงของผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์

 

 

โดยจะร่วมมือด้านวิชาการและเทคนิคมาตรฐานต่าง ๆ ในการประยุกต์ใช้สัญลักษณ์บาร์โค้ดแบบ 1 มิติ และ 2 มิติ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในการกำหนดกฎหมายและข้อบังคับด้าน Coding & Serialization ของผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างปลอดภัย และเกิดประสิทธิภาพสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับ และป้องกันการปลอมแปลง เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และยกระดับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศให้มีมาตรฐานสู่ระดับสากล

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube