“สัจธรรมทางการเมือง”เป็นเรื่องของ อำนาจ และ ผลประโยชน์ โดยเฉพาะการเข้าสู่ตำแหน่งและการได้มากำกับงานองค์กรอย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับทุกผู้คน ตั้งแต่แรกเกิดจนเสียชีวิต เป็นความปรารถนาของนักเลือกตั้งอย่างที่สุด ทั้งๆที่ผุดนโยบายพรรคขึ้นมาหมายมั่นจะเข้ามาปฏิรูปวงการตำรวจ หรือแก้ปัญหาวงการสีกากีที่ประชาชนขานรับ หากแต่ ความอ่อนแอ ของ องค์กรสตช.กลับเป็นความง่ายต่อการเข้ามาบริหารความขัดแย้ง แทรกแซงแบ่งเค้ก ผู้ใต้บังคับบัญชาต่างพยายามวิ่งเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจ วิ่งเต้นเส้นสายแสวงหาความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานและผลประโยชน์
แม้การจัดสรรงบประมาณประจำปีในระบบของสตช.จำนวนไม่มากเพียงพอต่อการบริหารงานแต่กลับเป็นช่องว่าง และเป็น ข้ออ้าง ให้เกิด การแสวงหาปัจจัย ในการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็น ธรรมเนียม และประชาชนกลับตกเป็นเหยื่อวงจรอุบาทว์ งบประมาณนอกระบบ มากเกินกว่าจะประมาณการทั้งเม็ดเงินจาก ขบวนการตามน้ำและ ทวนน้ำ หรือบนดินและใต้ดิน มีการเรียกรับและส่งโดยเฉพาะ ผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมาย กิจการสีเทา ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ด้วยวงเงินมหาศาลยิ่งหวานเจี๊ยบ กระทั่งเป็น นายทุน สนับสนุนวิ่งเต้นประมูลจัดซื้อตำแหน่ง ยิ่งเป็น คดีสำคัญ ที่มีวงเงินได้เสียจำนวนมากยิ่งเป็นความปรารถนาของพนักงานสอบเจ้าของคดี
เฉกเช่น”คดีบ่อนพนันออนไลน์” “คดีดังกำนันนก”ที่ปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวพันหรือเรียกรับสินบนเป่าคดีจากดำฟอกให้เป็นขาว วาระการประชุมประจำเดือนของระดับกองบังคับการตำรวจจังหวัดกลับกลายเป็นวันนัดส่งส่วยผู้บังคับบัญชา ที่สุดแห่งคดีดังเงียบและจบลงแบบผู้ต้องหาลอยนวล คุกมีไว้ขังคนจนหรือไว้คุมคนที่มีความเห็นต่างอย่างที่ปรากฏเท่านั้น
การแต่งตั้ง “บิ๊กต่อ”พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” อาวุโสอันดับ 4 เป็น “ผบ.ตร.คนใหม่” จบตั้งแต่การฟอร์มทีมจัดตั้ง “รัฐบาลเศรษฐา1” แล้วครับนาย การบริหารจัดการ ถ่วงดุลอำนาจทั้ง ในและนอกระบบ คู่ขนานไปกับการต่อรองการกลับบ้านของ “ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งเป็นภาระกิจหลัก ตำแหน่ง “ผบ.ตร.คนใหม่”ถูกพูดถึงบนโต๊ะเจรจา ในเงื่อนไข การการันตี “ตัวประกัน” โดย” “บุคคลระดับบิ๊ก”เดินทางไปพบ “ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง”ยังต่างประเทศ เพื่อถกความเมือง แต่กลับปฏิบัติหน้าที่นอกสั่งบางภารกิจ ด้วยการเสนอชื่อ “รองผบ.ตร.อันดับ3”ซึ่งเป็นเครือญาติกัน และเดินทางกลับไทยโดยไม่รายงานตรงต่อผู้บังคับบัญชาจนถูกลงโทษตามระเบียบวินัยข้าราชการ
นัยทางการเมือง เป็นที่รับรู้ทั่วกันถ้วนทั่ว ด้วย “เงื่อนไข”และ ปัจจัย “บิ๊กตำรวจ”รายที่ “เป้าหมาย”เหลือเวลาในราชการเพียง1 ปี เช่นเดียวกับ “บิ๊กตร.อันดับ1”หากแคนดิเดตอันดับ 2 “บิ๊กโจ๊กอัคนี” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เข้าวินและอยู่ในตำแหน่งต่อเนื่องอีก 7 ขวบปี ผู้มีอาวุโสต่ำกว่า 7 ปีลงมาตั้งแต่ระดับ รองผบ.ตร.และผช.ผบ.ตร.กระทั่งที่ ปรึกษาหรือสบ.11 กลับไม่มีโอกาสแม้แต่จะเอื้อม ปฏิบัติการลงแขก สกัดตัดขา”เทพแห่งไฟ” การเมืองในวงการสีกากีเกิดขึ้นในรูปแบบของ “หมายจับ”หรือ “หมายค้น”แบบ “กฐินสามัคคี”คนละไม้คนละมือ ระดมกำลังพลในสังกัดจน “บิ๊กโจ๊ก”เองหา “เจ้าภาพ” “บิ๊กตร.”ต้นตอสั่งการจริงไม่เจอ เจ้าตัวยังตั้งตัวไม่ทัน ออกจากบ้านมาต้อนรับในชุดนอนแบบงงๆในดงคอมมานโด
ดีลการเมือง ช่วงฟอร์มทีม”รัฐบาลเพื่อไทย”กับ ”พลังประชารัฐ” ยังไม่ลงตัว โชคไม่เข้าข้าง “บิ๊กโจ๊ก”ดุลอำนาจ เปลี่ยน ความปลอดภัยต่อการกลับบ้านของ “ทักษิณ”กับสถานภาพ “นักโทษ”และการขึ้นสู่ตำแหน่งของ “เศรษฐา ทวีสิน”ยังขาดความไว้วางใจ จึงต้องข้ามขั้วการเมืองไปผสมข้ามสายพันธ์กับ “พรรครวมไทยสร้างชาติ”ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งแน่นอนกว่า ตำแหน่ง “ผบ.ตร.คนใหม่” ลงตัว จำนวนเสียงผู้สนับสนุนฝั่ง สมาชิกวุฒิสภา ก็มั่นคง ผลประโยชน์ต่างตอบแทน ดุลอำนาจทางการเมือง และ กลุ่มทุน พึงพอใจด้วยระดับเกรดรัฐมนตรี “บิ๊กโจ๊กอัคนี” เจ้าของตั๋วมูลนิธิฯป่ารอยต่อ กับ”ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจ้าของค่าย เป็นอันความฝันสูญสลาย ตำแหน่งสุดปรารถนา “นายกฯคนที่ 30”ได้แค่ในโลกแห่งจินตนาการ เก้าอี้”ผบ.ตร.คนใหม่”มันก็จบตั้งนานแล้วครับนาย..ยังคงแต่บรรยากาศแห่งความสามัคคีที่เกิดขึ้นจริง ประชาชนส่วนใหญ่ ไร้การยอมรับกับทุกกระบวนท่า ที่มาของผู้นำครบทุกสถาบันหลักชาติ ฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ และล่าสุดกระบวนการยุติธรรมไทย..เละยิ่งกว่าโจ๊ก..!!
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews