“ยูซีไอ” ประกาศโควตาสองล้อถนน อลป. ไทยได้ 3 ที่
“ยูซีไอ” ประกาศโควตาสองล้อถนน อลป. ไทยได้ 3 ที่นั่งตามเป้าหมาย หญิง 2 ชาย 1 “เสธ.หมึก” วอน กกท. และกองทุนกีฬาฯ เร่งรัดงบประมาณที่ส่งนักกีฬาไปเก็บแต้ม
“ยูซีไอ” ประกาศโควตาจักรยานประเภทถนนในโอลิมปิกเกมส์ 2024 อย่างเป็นทางการแล้ว สรุปผลงานของ “สองล้อ” ได้โควตา 3 ที่นั่งตามเป้าหมาย จากโรดเรซหญิง ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง และโรดเรซชาย รวมกับ “โกเมธ สุขประเสริฐ” จากบีเอ็มเอ็กซ์อีก 1 ที่นั่ง รวมเป็น 4 ที่นั่ง ด้าน “เสธ.หมึก” เผยในช่วงปี 2566 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ใช้งบประมาณในการส่งนักกีฬาไปตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์เป็นจำนวนมาก วอนการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เร่งรัดกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่สมาคมฯ จัดส่งเอกสารไปตามกระบวนการเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะยังต้องใช้งบประมาณในการจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ และการเปิดอบรมพัฒนาบุคลากร ทั้งผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน ตลอดปี 2567 ตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ รวมทั้งขอให้คณะกรรมการเตรียมทีมนักกีฬาชุดโอลิมปิกเกมส์เร่งออกแผนการเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อที่จะได้มีเวลาในการเตรียมทีมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 8 เดือนแล้ว
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ระบุว่าหลังจากผ่านกำหนดเวลาการเก็บคะแนนสะสมจักรยานโลก UCI World Ranking เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งยูซีไอกำหนดให้เป็นการสิ้นสุดกรอบเวลาการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกนักกีฬาจักรยานชายและหญิงเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 33 ปี 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผลปรากฏว่านักปั่นไทยจะได้รับโควตาทั้งสิ้น 3 ที่นั่งตามเป้าหมาย ประกอบด้วยนักกีฬาหญิง 2 คน นักกีฬาชาย 1 คน
พลเอกเดชา กล่าวว่า จากอันดับคะแนนสะสมที่ประกาศออกมาดังกล่าว ทีมชาติไทยฝ่ายหญิง ทำคะแนนสะสมรวม 933 คะแนน อยู่ในอันดับ 24 ของโลก ส่งผลให้ได้รับโควตาโอลิมปิกเกมส์ในประเภทโรดเรซ 1 ที่นั่ง และในประเภทไทม์ไทรอัลบุคคล 1 ที่นั่ง จากระเบียบการคัดเลือกจักรยานถนนโอลิมปิกเกมส์ที่ระบุว่าชาติที่อยู่ใน 45 อันดับแรกของโลกจะได้รับโควตาประเภทโรดเรซ และชาติที่อยู่ในอันดับ 1-25 จะได้รับโควตาไทม์ไทรอัลบุคคล
“ส่วนในประเภทชาย นักปั่นทีมชาติไทยทำคะแนนสะสม 890 คะแนน อยู่ในอันดับ 42 ของโลก จะได้รับโควตา 1 ที่นั่งในประเภทโรดเรซชาย ซึ่งผลงานการคว้าโควตารวดเดียว 3 ที่นั่งของทีมจักรยานถนนไทยครั้งนี้ ก็เป็นผลงานประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการจักรยานไทยทั้งประเภทชายที่เพิ่งจะผ่านควอลิฟายครั้งแรก ในขณะที่นักปั่นหญิงก็เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกันที่สามารถผ่านควอลิฟายได้ถึง 2 ที่นั่ง จากในอดีตนับตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มาจนถึงโอลิปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไทยเราควอลิฟายประเภทถนนหญิงครั้งละ 1 ที่นั่งมาอย่างต่อเนื่อง” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า หลังจากผ่านกำหนดเก็บคะแนนคัดเลือกประเภทโอลิมปิกเกมส์ 2024 ดังกล่าว ยูซีไอกำหนดที่จะส่งแจ้งยืนยันการได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่เกินวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งตามระเบียบการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ คณะกรรมการโอลิมปิคฯ ก็จะต้องตอบยืนยันโควตากลับไปยังยูซีไอไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคม ในขณะที่การยืนยันรายชื่อนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน “ปารีสเกมส์” กำหนดไว้วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เพื่อเข้าแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิปิกเกมส์ 2024 ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2567
“โดยสรุป ปัจจุบันไทยเราผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์แล้ว 4 ที่นั่ง ประกอบด้วย บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย จาก ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ในฐานะแชมป์เอเชีย 2023 รวมกับประเภทถนนโรดเรซหญิง ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง และโรดเรซชาย อีกอย่างละ 1 ที่นั่ง ในขณะที่ประเภทลู่และเสือภูเขา ยังอยู่ในห้วงเวลาการเก็บคะแนนเพื่อคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ซึ่งในประเภทลู่จะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2567 ส่วนเสือภูเขาจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2567”
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ความสำเร็จในการที่นักกีฬาผ่านควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เป็นผลงานร่วมกันทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ไปจนถึงทีมงานสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ทุกฝ่ายที่ต้องทำงานสอดประสานกันทั้งในด้านเทคนิค การต่างประเทศ งานธุรการกว่าจะลุล่วงต้องอาศัยงบประมาณจำนวนมากในการส่งนักปั่นไทยตระเวนแข่งขันรายการต่าง ๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียและยุโรป เนื่องจากระบบการคัดเลือกอาศัยการเก็บคะแนนสะสม ที่ผ่านมาในช่วงเวลาของการคัดเลือก โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของประเภทถนนในปี 2566 มีจำนวน 14 รายการที่ได้รับอนุมัติจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังรอการเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนกว่า 6,600,000 บาท ในขณะที่ยังมีอีกหลายรายการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ใช้งบประมาณของสมาคมฯ ส่งนักกีฬาไปแข่งขันอีกราวประมาณ 4 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินหมุนเวียนในปัจจุบันของสมาคมฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากยังจะต้องใช้งบประมาณในการส่งนักปั่นประเภทลู่และเสือภูเขาไปแข่งขันเก็บคะแนนต่อเนื่องจนถึงกลางปีหน้า
“ในเรื่องนี้ ผมก็ขอวิงวอนไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ช่วยเร่งรัดกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่สมาคมฯ จัดส่งเอกสารดำเนินการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อให้สมาคมฯ มีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ไม่เฉพาะการส่งนักกีฬาแข่งขัน แต่ยังมีกิจกรรมการจัดการแข่งขันจักรยานในการจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประเภทต่าง ๆ ที่สมาคมฯ ดำเนินการจัดการแข่งขันตลอดทั้งปีเพื่อพัฒนามาตรฐานและเฟ้นหานักปั่นไทยรุ่นใหม่ทดแทนรุ่นพี่ ๆไปจนถึงกระบวนการพัฒนาบุคลากรทั้งผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ช่างหรือนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากทั้งสิ้น รวมทั้งขอให้คณะกรรมการเตรียมทีมนักกีฬาชุดโอลิมปิกเกมส์เร่งออกแผนการเก็บตัวฝึกซ้อมออกมาโดยเร็ว เพื่อที่จะได้มีเวลาในการเตรียมทีมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพาะเหลือระยะเวลาอีกไม่ถึง 8 เดือน” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews