เชลซี ฮึดตายยากไล่ตามตีเสมอ แมนฯ ซิตี้ 4-4 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เชลซี ด้วยสกอร์ 1-0 มา 4 หนติดต่อกัน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมุนนักเตะกลับมาใช้ชุดแกร่งลงสนาม เจเรมี่ โดกู ที่ฟอร์มฮอตนำทีม ตามมาด้วยแบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น และฮูเลี่ยน อัลวาเรซ โดยมีเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ประจำการหัวหอกเหมือนเดิม
ด้าน เชลซี ได้ความมั่นใจจากเกมถล่มสเปอร์ส นิโคลัส แจ็คสัน คนทำแฮตทริก ยืนหอกต่อ โดยมีโคล พาลเมอร์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำเกมด้านหลัง และรีซ เจมส์ ออกสตาร์ตตัวจริงริมเส้นขวา
ผลปรากฎว่า แมนฯ ซิตี้ บุกเป็นฝ่ายมานำก่อน 1-0 จากจังหวะมาได้จุดโทษ เมื่อ มาร์ค คูคูเรย่า ไปดึง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ในนาทีที่ 21 และ VAR ยืนยันตามนั้นก่อนที่จะเป็น ฮาลันด์ ลุกมายิงไม่พลาด ในนาทีที่ 25
นาทีที่ 29 เชลซี มาตามตีเสมอ 1-1 เป็นจังหวะที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดเตะมุมมาให้ ติอาโก้ ซิลวา โขกไม่เหลือ
จากนั้นนาทีที่ 37 รีซ เจมส์ จ่ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงใส่ทีมเก่า ด้วยการแปง่ายๆ กลายประตูเข้าไป เชลซี พลิกขึ้นนำ 2-1
นาทีที่ 45 + 6 แบร์นาร์โด้ ซิลวา เปิดเข้ามาในเขตโทษให้ มานูเอล อคานจี โหม่งเข้าไป แมนฯ ซิตี้ ตามเสมอ 2-2 และก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาครึ่งหลังนาทีที่ 47 แมนฯ ซิตี้ พลิกแซง 3-2 ฮูเลียน อัลวาเรซ เปิดจากทางขวามาให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ชาร์จจ่อๆ เข้าไป พร้อมกับเป็นประตูที่ 2 ของแนวรุกทีมชาตินอร์เวย์ในนัดนี้
นาทีที่ 67 เชลซี กลับมาสู่เกมอีกครั้งด้วยการ ตีเสมอ 3-3 นิโกลัส แจ็คสัน ตามซ้ำลูกยิงของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ เอแดร์ซอน เซฟไม่อยู่เข้าไป
นาทีที่ 86 ทีมเยือนมาได้ประตูนำ 4-3 โรดรี้ เอร์นานเดซ ยิงไปแฉลบ ติอาโก้ ซิลวา เปลี่ยนทางเข้าประตูไป
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 อาร์มานโด โบรย่า ตัวสำรอง ไปถูกทำฟาวล์ เชลซี พูตตัดสินชี้ไปที่จุดโทษ และเป็น โคล พาลเมอร์ ยิงใส่ทีมเก่าเข้าไปในนาที 90+5 เชลซี ตามเสมอ 4-4
ทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีเพิ่มเป็น 28 คะแนน แต่ยังนำเป็นจ่าฝูง ส่วนเชลซี มีเพิ่มเป็น 16 คะแนน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews