ยังไม่แผ่วกับกระแสโจมตีและการรุกร้องไปยังองค์กรต่างๆ เพื่อตรวจสอบที่เข้มข้นของหลายภาคส่วนในสังคมกับ นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต ที่ถือเป็น “นโยบายเรือธง” ของ “รัฐบาลเศรษฐา”
แม้การประชุมครม.วันนี้ ที่ไม่มี “นายกฯเศรษฐา” นั่งหัวโต๊ะเพราะอยู่ระหว่างการประชุมเอเปคที่สหรัฐ บรรดา รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ก็ยังถูกสื่อจี้ถามท่าทีตามที่ “นายกฯเศรษฐา” บอกว่า 320 เป็นเสียงที่พร้อมสนับสนุนให้ ร่างพรบ.กู้เงิน ผ่านสภาไปได้แน่ ที่หลายคนทั้ง“ท็อป-วราวุธ” ชาติไทยพัฒนา และ
“เสี่ยหนู-อนุทิน” ออกมาทำนองคล้ายกันรอฟังจาก กฤษฎีกา โดย “อนุทิน” ชัดขึ้นมาหน่อยต่างไปจากวันก่อนที่บอกว่านโยบายของรัฐบาลพรรคร่วมก็ต้องสนับสนุน แต่วันนี้ กลับมาในท่วงทำนอง “ใครจะมามัดมือชกพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้” หากถูกกฎหมายไม่ขัดรธน.ก็พร้อมสนับสนุน
ขณะที่ “นายกฯเศรษฐา” เองที่อยู่ที่สหรัฐ ก็ยังคงแจงเช้าแจงเย็น ยืนยันว่า นโยบายดิจิทัลวอเล็ต เป็นสิ่งจำเป็น ในภาวะที่ประเทศวิกฤติ โดยบอกไม่อยากเถียงกับ “ไหม-ศิริกัญญา” ก้าวไกล ที่จับผิดจี้ให้อธิบายว่าประเทศมีวิกฤติอย่างไรถึงต้องกู้แต่ยืนยันตามที่ได้แถลงไปว่า วิกฤตไม่วิกฤต จำเป็นไม่จำเป็น ซึ่งตนเองมองเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็น มองเห็นว่าเป็นเรื่องวิกฤตก็แค่นั้น
ซึ่งประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน ส่วน คณะกรรมการกฤษฎีกามีการรายงานความเห็นเพิ่มเติมมาหรือไม่หลังมีข่าวว่ากฤษฎีกาจะเตือนเรื่องนี้เป็นพิเศษ นั้น ยังไม่ได้คุย ซึ่งคณะกรรมาการกฤษฎีกาไม่มีคำว่า “อาจจะเตือน” แต่จะมีแค่คำว่า “เห็นด้วย” หรือ” ไม่เห็นด้วย” ก็ขอให้รอแล้วกัน แต่รัฐบาลยืนยันว่าเรื่องนี้จำเป็นและเร่งด่วน และว่าไม่ได้มีการปรึกษาเรื่องนี้กับ “อ.วิษณุ”
ซึ่งเพิ่งเป็น กรรมการกฤษฎีกา โดยตนต้องระมัดระวังในการที่จะคุยตรงนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นการล็อบบี้หรือไปพูดคุยการที่ตนได้พูดคุยกับสาธารณชนในเรื่องนี้ก็ได้อธิบายไปแล้วว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนGDPไทยเติบโตเท่าไหร่เมื่อเปรียบเทียบ กับเพื่อนบ้านอย่างชัดเจนและเราพูดคุยข้อมูลกันอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว
ขณะที่หันมาทาง รัฐมนตรีจากเพื่อไทย ก็พยายามอธิบายความทั้งขั้นตอนกระบวนการที่อยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการกฤษฎีกาและเหตุความจำเป็น รวมถึงข้อเหตุข้ออ้างที่เนื้อหาต่างไปจากที่แจ้งไว้กับกกต. อย่างที่ทั้ง “อ้วน-ภูมิธรรม” และ “จุลพันธ์”พยายามแจง ว่า ในคณะกรรมการการดิจิทัล วอลเล็ต เลขาธิการกฤษฎีกาฯ ก็อยู่ในที่ประชุมด้วย และได้รับเรื่องไปแล้วส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์การกู้เงิน จะผิดวินัยการเงินการคลังเก็ป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่มีทั้งผู้สนับสนุน และไม่เห็นด้วย ขอให้รอกระบวนการทั้งหมดเริ่มต้น การเข้าสู่กระบวนการกู้เงิน
และว่า เดิมทีไม่คิดจะกู้ แต่เมื่อมีข้อติดขัดและคิดว่าเราคิดว่าจะต้องกู้ ก็คำนึงถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ตน อยากให้คนที่คัดค้านหรือพรรคการเมืองที่คัดค้านเคารพในระบอบประชาธิปไตย เมื่อหาเสียงมาแล้วเราต้องเราต้องทำตามสิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชนถ้าทำแล้วไม่เป็นไปตามที่คิดล้มเหลวหรือมีปัญหาอันนั้นค่อยว่ากันตามกระบวนการปชต.
ส่วนความมั่นใจการโหวตของสภานั้นมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดเห็นพ้องต้องกัน หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก็ทราบแล้วว่าจะกู้เงินเพราะพูดคุยกันมาตลอด และในวันที่ประชุมเรื่องนี้ตนเอง และ “นายอนุทิน” รวมถึงหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็เข้าร่วมคิดว่าเราคุยกันมาตลอดในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาในการจัดตั้งรัฐบาล และเป็นการแถลงร่วมกัน ของคณะรัฐมนตรี จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เรียกว่า “สัญญาณต้าน” จากทุกทิศทางที่ออกมารุม “นโยบายเรือธง” ให้กลายเป็น “ตำบลกระสุนตก” ยามนี้ ไม่เพียงแค่แรงต้านทางการเมืองธรรมดา หากแต่เป็น “แรงต้าน” ที่มาจากทั้งทิศทาง “อำนาจเก่า” และ “ฝ่ายค้าน-ก้าวไกล” ที่บางสัญญาณ เริ่มมีการ“แยกส่วน” ความรับผิดชอบไปสู่การ “ตัดตอน” ว่า “นโยบายเรือธง” “เศรษฐา” เป็นคนคิดผลักดัน หากเกิดอะไรขึ้นแบบไปไม่เป็นไปไม่ได้ จะด้วยจำต้องจบในช็อต “กรรมการกฤษฎีกา” ที่อาจแทงว่า “ทำไม่ได้” ไม่ทันได้ให้ ครม.ที่มี “พรรคร่วมรัฐบาล” อย่าง“กลุ่มอำนาจเก่า”
ต้องร่วมหอลงโรงรับผิดชอบไปด้วย หรือจะไปจบที่ชั้น “สภาล่าง” ที่ก็เริ่มมีท่าทีจาก “ภูมิใจไทย” ที่ไม่ยอมให้มัดมือชก ไม่เป็นแบบที่ “เศรษฐา” ประกาศว่ามั่นใจ320เสียงจะไปทางเดียวกัน หรือหากฝ่าไปได้ก็ยังมี “สว.250” ที่ท่าทีชัดเจนว่าไม่น่าจะผ่านให้ ที่ทั้งหมดจะถูกลากยาวไปตรงไหนหรือใจตัดจบยังไง “นายกฯนิด” ก็ต้องรับหน้าเสื่อรับผิดชอบในทางการเมือง อย่างที่เริ่มมีการแนะนำถึงการเตรียมการ แคนดิเดตนายกฯคนต่อไปของเพื่อไทย ที่ชื่อ “อุ๊งอิ๊งค์” กันบ้างแล้วก่อนหน้านี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews