แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโรปา ลีก ได้สำเร็จหลังบุกชนะ เอซี มิลาน ได้ 1-0
ศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปาลีก ฤดูกาล 2020-21 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง คู่ที่น่าสนใจ “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน จากอิตาลี เปิดสนามซาน ซิโร รับการมาเยือนของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ โดยนัดแรกทั้งสองทีมเสมอกันมา 1-1
เกมนี้เจ้าบ้าน เอซี มิลาน ได้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง แผงมิดฟิลด์ ราเด้ ครูนิช, ซูอาลิโฮ ไมเต้, ฟรองค์ เกสซิเย ขณะที่แนวรุก อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส, ซามู กาสติเญโฆ และ ฮาคาน คัลฮานโนกลู
ทางฝั่งแมนฯยูไนเต็ด เกมนี้ยังใช้ ดีน เฮนเดอร์สัน เฝ้าเสา คู่กลางใช้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ประสานงาน เฟร็ด ขณะที่แนวรุกยังใช้ เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันด์ส , แดเนียล เจมส์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดยทีมได้ ปอล ป็อกบา และ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค กลับมามีชื่อสำรอง
ครึ่งแรก นาทีที่ 13 แมนยูฯ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ หลุดมาในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจ่ายย้อนมาให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ซัดด้วยขวา บอลพุ่งข้ามคานออกไป
ถัดมา 2 นาที โอกาของ มิลาน เมื่อ ฟรองค์ เคสซี ตั้งป้อมยิงไกล แต่บอลตรงตัว ดีน เฮนเดอร์สัน จอมหนึบของปิศาจแดง
จากนั้นนาทีที่ 41 มิลานได้ลุ้นเลย เมื่อ ฟรองค์ เคสซี จ่ายให้ อเล็กซิส แซเลเมเกอร์ส ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟออกไปได้ จบครึ่งแรก เอซี มิลาน ยังเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 49 แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะชุลมุนในเขตโทษสุดท้ายบอลมาเข้าทาง พอล ป็อกบา ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ดึงจังหวะอย่างเยือกเย็นแล้วซัดแสกหน้า จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา โกลของมิลาน เข้าไปเลย
นาทีที่ 52 แมนยูฯ น่าบวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะที่ เมสัน กรีนวูด พลิกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ไม่ผ่าน จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา
ถึงนาทีที่ 72 มิลาน เกือบตีเสมอ เมื่อ ฮาคาน คัลฮาโนกลู เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ลงมาเป็นตัวสำรองขึ้นโขกเน้นๆ แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟออกไปได้อย่างสุดยอด
จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ เอซี มิลาน 1-0 รวมผล 2 นัด แมนยูฯ ชนะ 2-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news