Home
|
ข่าว

นายกฯกำชับรมต.ต้องลงพื้นที่ครบ-ว้ากหาผู้ว่าฯททท.

Featured Image
นายกฯ เยี่ยมชมศูนย์โอท็อปกาญจนบุรี ยิ้มแก้มปริ ประชาชนมอบเสื้อฟุตบอล Dragon FC อวยพรขึ้นชั้นฤดูกาลหน้า กำชับต่อไปนี้รมต.ต้องลงพื้นที่ครบ ว้ากหา ผู้ว่าฯ ททท. ไร้เงา

 

 

 

 

 

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมคณะเดินทางมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP และสินค้าวิสาหกิจชุมชน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตำบลท่ามะขาม

 

 

 

โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้เดินชมสินค้าโอท็อปประจำจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งระหว่างนั้นได้มีประชาชนมอบเสื้อฟุตบอลสีแดง ของสโมสร DP Kanchanaburi FC หรือ Dragon FC โดยด้านหลังสกรีนชื่อเศรษฐา ทวีสิน หมายเลข 30 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามว่าขณะนี้สโมสรอยู่ในดิวิชั่นใด ประชาชนจึงตอบว่า ลีก 2 นายกฯ จึงอวยพรขอให้ขึ้นชั้นในฤดูกาลหน้า

 

 

 

ขณะเดียวกันก็ได้มีประชาชนมอบผ้าขาวม้าคล้องคอได้อวยพรขอให้ นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีนานๆ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทดลองตำและชิมขนมทองโย้ ซึ่งขนม พื้นเมืองกระเหรี่ยง ในพื้นที่สังขละบุรี ทองผาภูมิ และศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดตามแนวชายแดนไทยเมียนมา

 

 

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับเกษตรกรชาวไร่อ้อย เพื่อรับมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมกับขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาติดตามปัญหาข่าวไร่อ้อยในพื้นที่ โดยชาวบ้านยังถือป้ายรอต้อนรับ โดยระบุว่า “ขอบคุณ พณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้อนุมัติค่าตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท ให้ชาวไร่อ้อย และ ชาวไร่อ้อย รวมใจตัดอ้อยสด เพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 ตามนโยบายรัฐบาล

 

 

 

โดยระหว่างเดินชมนายกรัฐมนตรียังให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์โกโก้ ซึ่งเป็นของ ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ โดยรัฐบาลกระทรวงอุตสาหกรรมมีแนวคิดที่จะให้แปรรูปเพิ่มมูลค่า ซึ่งตัวแทนเกษตรกรกล่าวว่าพื้นที่กาญจนบุรี ยังต้องการโรงงานแปรรูปอยู่

 

 

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาภายในพื้นที่ ทั้งปัญหาที่ดินทับซ้อน /การออกโฉนดที่ดินทำกิน โดยระบุว่า จากที่ฟังบรรยายสรุปแล้วมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าผู้บริหารที่นี่ ทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมกับชมผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายกฯ อบจ.ที่ ทำงานเพื่อประชาชนโดยอย่าคิดว่าเป็นพรรคไหน ทำงานร่วมกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เอาความต้องการและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีความพร้อมทุกอย่างมีหมด

 

 

 

ส่วนการแก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดิน มีปัญหาตั้งแต่ปี 2481 ซึ่งขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผบ.ทสส มหาดไทย ช่วยไปพูดคุยกันให้จบ เพราะปัญหานี้มีมายาวนาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่มาถึงแล้วก็อยากให้จมที่รุ่นนี้ ตนขอฝากผู้ว่าราชการไว้ด้วย หากสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินได้ตนเชื่อว่าแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนได้อย่างดี

 

 

 

ควบคู่ไปกับนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะจัดการ หนี้นอกระบบให้หมด หากทุกภาคส่วนช่วยกันทำงานเต็มที่ตนจะช่วยอยู่เบื้องหลังพยายามให้จบให้ได้ภายในรุ่นนี้ เพื่อให้มีสินทรัพย์เป็นทุน เนื่องจากศักยภาพภายในจังหวัดกาญจนบุรีนั้นเหลือล้น เป็นจังหวัด ท็อป 5 ของประเทศได้อย่างสบาย

 

 

 

ส่วนการบริหารจัดการน้ำต้องไม่ท่วมไม่แล้ง แต่พื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นปัญหาน้ำแล้งมากกว่า หากไม่แล้งเสียอย่างตนเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ทางด้านการเกษตรและรายได้ต่อหัวจะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรามีแหล่งน้ำอยู่จำนวนมาก พร้อมกับมอบนโยบายให้ปล่อยปลาตามแหล่งน้ำ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด เพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นเล็กๆน้อยๆ ซึ่งตนเข้าใจถึงความเดือดร้อนการที่ประชาชนมีรายได้เสริม

 

 

 

ส่วนศักยภาพทางการค้าในชายแดนศุลกากร พื้นที่นี้มีความเสียเปรียบจากหัวเมืองหลัก เนื่องจากความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นการค้าทางด้านตะวันออกที่ติดกับประเทศลาวค่อนข้างดีมาก แต่ตนไม่อยากให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรีนั้นหมดหวัง ประเทศเมียนมามีประชากรเท่าๆเรา 70 ล้านคน แต่ปัญหาภายในก็หนักหนาอยู่เราเองเราชัดเจนวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ วางตัวเป็นการรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ เป็นหน้าที่ของความมั่นคงและกระทรวง

 

 

 

การต่างประเทศที่ต้องมีส่วนร่วม ซึ่งหากถามว่าทำไมตนถึงพูดตรงนี้ขึ้นมา ประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน เท่ากันกับเมียนมา หากทำตัวเป็นศูนย์กลางในการเจรจาให้เกิดความสงบสุขได้ ชายแดนไทยกับเมียนมา จะ 2,000 กิโลเมตร ถ้าเขาไม่มีปัญหาเราก็ไม่มีปัญหา การค้าชายแดนชายแดนจะบูม เรามีท่าเรือเรามีสนามบินที่มีศักยภาพแล้ว

 

 

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการท่องเที่ยวว่า ก็แปลกใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีบอกว่าจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอันดับ 3 ที่มีท่องเที่ยวนักเข้ามาซึ่งเป็นเรื่องของจำนวนคน และตนเคยบอกไปแล้วว่าเรื่องจำนวนคนเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องใหญ่คือการจับจ่ายใช้สอยและระยะเวลาที่อยู่ ที่ผู้ว่าฯบอกว่า นักท่องเที่ยวต่อ 1 คนใช้เงินแค่ 1,000 กว่าบาท 1,000 กว่าบาท

 

 

 

บางทีโรงแรมหนึ่งคืนยังไม่ได้เลย แสดงว่าเขามาเช้าเย็นกลับและมาอยู่ที่กรุงเทพฯ และไม่ค้างที่เมืองกาญจน์ โรงแรมที่จังหวัดกาญจนบุรีมีต้อง 600 กว่าโรงแรม และโรงแรมดีๆก็มีเยอะฝากทีมงานให้ไปพูดคุยกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มัวแต่ไปอังกฤษไป เบอร์ลิน อยากให้มาดูหน่อยดูจังหวัดกาญจนบุรี มาดูแลจังหวัดที่เดือดร้อนหน่อย แต่ไปจังหวัดใหญ่ๆ เชียงใหม่ ภูเก็ต จังหวัดแบบนี้อันซีน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังถามถึง ททท.จังหวัดกาญจนบุรี ฝากให้ดูเรื่องการท่องเที่ยวเพราะท่านก็ทราบว่าจังหวัดนี้ศักยภาพสูงขนาดไหน

 

 

 

อย่าตะแบงแค่ตัวเลขอย่างเดียว คนมาเยอะไม่ช่วย รายได้ รายจ่ายต่อหัว นะยะเวลาที่อยู่ ระยะเวลาท่องเที่ยว ต้องลงพื้นที่ให้หนัก มาพูดคุยกับผู้บริหารจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สส. เชื่อว่าทุกคนมีแรงบันดาลใจ เพราะที่บรรยายมา 30% เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งนโยบายการท่องเที่ยวรัฐบาลถือเป็นเรื่องสำคัญ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube