บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พ่าย วองต์โฟเรต์ โคฟุ ไปสุดมัน 2-3 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ จบอันดับที่ 4 ของกลุ่ม
การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยส์ ลีก 2023/24 กลุ่มเอช นัดที่ 6 ซึ่งเป็นนัดสุดท้าย เมื่อวันพุธที่ 12 ธันวาคม 2566 ณ สนามบุรีรัมย์ สเตเดียม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 3 ที่มี 6 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของบุกไปเยือน วองต์โฟเรต์ โคฟุ จ่าฝูงที่มี 8 คะแนน
นาทีที่ 7 ทีมเยือนได้ทักทายก่อน คริสเตียโน เปิดบอลจากทางขวาเข้าไปในกรอบ 6 หลา โมโตกิ ฮาเซกาวา ได้ขึ้นโหม่งบอลลอยออกหลังไป
นาทีที่ 21 ปราสาทสายฟ้า ได้ลุ้นบ้าง ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้ยิงจากแถวสองไปติดบล็อก ชิน อิโนอูเอะ ก่อนที่บอลจะลอยกลับมาหา ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้โหม่งตั้งให้ โกรัน เคาซิช ได้วาดเท้ายิงวอลเลย์ ทว่าโดนไม่เต็มบอลออกหลังไป
นาทีที่ 22 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นต่อเนื่อง ธนกฤต โชติเมืองปัก ได้บอลทางซ้ายก่อนจะลากหาเขตโทษแล้วจ่ายบอลย้อนกลับมาให้ ธีราทร บุญมาทัน ได้ยิงบอลพุ่งเรียด ทว่าบอลไปติดบล็อกกองหลังทีมเยือน
GOALLL!! นาทีที่ 24 สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ปั้มบอลกับ โมโตกิ ฮาเซกาวา ก่อนที่บอลจะเด้งย้อยมาเข้าทาง โมโตกิ ฮาเซกาวา ได้กระชากบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะยิงบอลลอยหายเข้าประตูไป วองต์โฟเรต์ โคฟุ บุกมานำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0
นาทีที่ 33 ปราสาทสายฟ้า ที่โดนนำเปิดเกมบุกเข้าใส่ ธีราทร บุญมาทัน ได้บอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดยางไปที่เสาสอง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ได้ตั้งหัวโหม่งบอล แต่ทว่าผู้เล่นทีมเยือนช่วยกันสกัดบอลออกมาจากกรอบเขตโทษได้
GOALLL!! นาทีที่ 38 ทีมเยือนมาได้ประตูที่ 2 ปีเตอร์ อูทาก้า ดึงบอลลงได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะได้ยิงด้วยซ้ายบอลเบียดเสาซ้ายมือเข้าประตูไป วองต์โฟเรต์ โคฟุ ขยับนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0
GOALLL!! นาทีที่ 43 โมโตกิ ฮาเซกาวา เปิดเตะมุมฝั่งขวาไปที่เสาแรก เรียวทาโร นากามูระ วิ่งเข้าไปยิงบอลแฉลบผู้เล่นปราสาทสายฟ้า ไปที่เสาสอง ปีเตอร์ อูทาก้า ยืนอยู่ตรงนั้นได้ยิงโล่ง ๆ เข้าประตูไป วองต์โฟเรต์ โคฟุ หนี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-0
จากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูจากทั้ง 2 ทีม ทำให้จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามหลัง วองต์โฟเรต์ โคฟุ 0-3
กลับมาเล่นครึ่งหลัง ปราสาทสายฟ้า ต้องเปลี่ยนเอา อาทิตย์ บุตรจินดา ลงสนามมาแทน ศุภชัย ใจเด็ด ที่ได้รับบาดเจ็บช่วงท้ายครึ่งแรก
GOALLL!! นาทีที่ 48 ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลยาวจากกลางสนามขึ้นหน้า อาทิตย์ บุตรจินดา วิ่งควบเข้าหาบอลโดยมี 3 ผู้เล่นทีมเยือนไล่เบียด ก่อนที่ อาทิตย์ บุตรจินดา จะเก็บบอลได้จิ้มบอลกลิ้งผ่าน โคเฮอิ คาวาตะ นายด่านทีมเยือน หายเข้าประตูไป ปราสาทสายฟ้า ไล่มา 1-3
GOALLL!! นาทีที่ 55 จากนาทีที่ 53 พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ พยายามกระดกบอลเล่นต่อ แต่ทว่าบอลไปโดนแขน ชิน อิโนอูเอะ ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นจุดโทษ ก่อนจะเป็น โกรัน เคาซิช รับหน้าที่สังหารยิงเสียบคานเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่ วองต์โฟเรต์ โคฟุ มาเป็น 2-3
นาทีที่ 61 ปราสาทสายฟ้า เกือบที่จะได้ประตูตีเสมอ ธนกฤต โชติเมืองปัก เปิดบอลจากทางซ้ายลอยเข้ามาในเขตโทษ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี วิ่งเข้าไปโขกย้อยไปทางเสาซ้ายมือ บอลลอยจะเข้าประตู โคเฮอิ คาวาตะ บินมาปัดบอลได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 88 ปราสาทสายฟ้า ที่โหมบุกหนักหวังที่จะเอาประตูตีเสมอก็มาได้ลุ้น ชิน อิโนอูเอะ โหม่งสกัดบอลมาเข้าทาง ศศลักษณ์ ไหประโคน วิ่งมาซัดบอลจังหวะเดียวบอลพุ่งเรียดจะเสียบโคนเสาซ้าย โคเฮอิ คาวาตะ ล้มตัวรับบอลไว้ได้
จากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูเพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พ่าย วองต์โฟเรต์ โคฟุ ไปสุดมัน 2-3 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ จบอันดับที่ 4 ของกลุ่ม 6 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), ศศลักษณ์ ไหประโคน, รัตนากร ใหม่คามิ, ดิออน คูลส์, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (ปิยวัฒน์ เปตรา น.69), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (C), ธีราทร บุญมาทัน, โกรัน เคาซิช (จิระพงษ์ พึ่งวีระวงศ์ น.80), ธนกฤต โชติเมืองปัก (ธวัชชัย อินทร์ประโคน น.74), พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (เสกสรรค์ ราตรี น.74), ศุภชัย ใจเด็ด (อาทิตย์ บุตรจินดา น.46)
วองต์โฟเรต์ โคฟุ : โคเฮอิ คาวาตะ (ผู้รักษาประตู), มาซาฮิโระ เซกิงูชิ (C), ชิน อิโนอูเอะ,ไคโตะ คามิยะ (โยชิกิ โทริไก น.72), โซตะ มิอูระ, นากิ มัตซูโมโต, เรียวทาโร นากามูระ (โคยะ ฮายาชิดะ น.82), คริสเตียโน (จีทูลิโอ วานเลลี่ น.82), ริคุ ลิจิมะ (โซได ฮาซูกาวา น.59), โมโตกิ ฮาเซกาวา, ปีเตอร์ อูทาก้า (คาซูชิ มัตซูฮิโระ น.59)
ด้าน อาเธอร์ ปาปาส หัวหน้าผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ วองต์โฟเรต์ โคฟุ ด้วยที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ ซึ่งตลอดรอบแบ่งกลุ่มเขาทำผลงานได้ค่อนข้างดี ความรู้สึกของผมหลังจบเกมวันนี้มันมี 2 อารมณ์มีทั้งผิดหวัง และภาคภูมิใจในเวลาเดียวกัน เรื่องแรกผิดหวังที่ผู้เล่นหลัก ๆ ติดโทษแบน และได้รับบาดเจ็บไป แต่นักเตะที่เหลืออยู่ของเราในวันนี้ก็ทำหน้าที่ได้สุดยอดที่สุดแล้ว แต่โดยภาพรวมก็ยังไม่พอใจผลงานในเอซีแอล ซึ่งผิดหวังมากที่ไม่ได้เข้ารอบต่อไป การจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งทีมต้องมีผู้เล่นที่พร้อม จะเห็นได้ว่า วองต์โฟเรต์ โคฟุ ก็แบ่งทีมเป็น 2 ทีมเพื่อลงเล่นในลีก กับ ฟุตบอลถ้วยเอเชีย”
“อย่างที่รู้กันในเวทีระดับเอเชียถ้าเราเสียสมาธิไปแม้แต่วินาทีเดียวก็อาจจะถูกลงโทษได้ ซึ่งเราก็ถูกลงโทษ การโดนนำ 3-0 ถ้าเป็นคนอื่นคงเป็นเรื่องง่ายที่จะยอม ไม่สู้แล้ว แต่ในห้องแต่งตัวช่วงพักครึ่งผมได้บอกกับนักเตะทุกคนว่าเราต้องสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจนะที่นักเตะเรา 5 คน ที่ลงสนามมีอายุต่ำกว่า 20 ปี เขาเหล่านั้นทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก มันแสดงให้เห็นว่าอะคาเดมีของเราแข็งแกร่ง และมีคุณภาพมาก”
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการส่ง ธนกฤต โชติเมืองปัก นักเตะเยาวชนลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงว่า “แม้นักเตะยังไม่มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ แต่ตัวผมเองมีประสบการณ์ มองเห็นแววว่านักเตะคนไหนเก่ง นักเตะคนไหนมีความสามารถพอที่จะลงสนามได้ จากนี้ต้องดูกันต่อไประยะยาว ซึ่งเกมนี้นักเตะเยาวชนของเราอย่าง เสกสรรค์ ราตรี, ธวัชชัย อินทร์ประโคน, ปิยวัฒน์ เปตรา, จิระพงษ์ พึ่งวีระวงศ์ ต่างก็ทำหน้าที่ได้ดี ข้อผิดพลาดในสนามมักจะเกิดขึ้นได้เสมอนั้นแหละคือส่วนหนึ่งของการเดินทางในฟุตบอลอาชีพ ประสบการณ์ตรงนี้แหละจะสอนให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น”
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีคิวลงสนามเล่นศึกฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2023/24 ด้วยการยกทัพออกไปเยือน การท่าเรือ เอฟซี ที่สนามแพท สเตเดียม ในวันที่ 17 ธันวาคม 2566 คิกออฟเวลา 18.00 น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews