Home
|
อาชญากรรม

สรุปไทม์ไลน์ การหายตัวไปของน้องนุ่น จากคดีคนหาย สู่ คดีฆาตกรรมอำพราง

Featured Image

          กลายเป็นประเด็นที่สังคมกำลังจับตามอง คดีการหายตัวไปอย่างปริศนาของ น.ส.ชลลดา หรือ น้องนุ่น หญิงสาวอายุ 27 ปี เมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังกลับจากงานฉลองวันเกิดสามี ซึ่งทางกลุ่มเพื่อนและครอบครัวได้พากันโพสต์ตามหา แต่ยังไร้วี่แวว 

          ก่อนสุดท้าย นาย ศิริชัย อายุ 33 ปี ผู้เป็นสามี ถูกตำรวจเค้นสอบอย่างหนัก ก่อนจะสารภาพว่าเป็นคนฆ่าภรรยาและได้นำศพไปทิ้งที่ จ.ปราจีนบุรี พบสภาพศพถูกเผานั่งยางในป่าเหลือเพียงโครงกระดูก

          โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก พร้อมทำให้ชาวเน็ตถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเอาผิดผู้ที่อ้างตนว่าเป็นสามี วันนี้ ทางสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. จะมาสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งความคืบหน้าของเหตุการณ์นี้มีอะไรบ้าง

ก่อนเกิดเหตุ

           วันที่ 17 ก.พ. 67 น้องนุ่น พร้อมสามีคือ นายศิริชัย ได้จัดงานเลี้ยงวันเกิด นายศิริชัย ที่ร้าน Waterside ถนนเลียบด่วนรามอินทราก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านในเวลา 01.00  หลังจากร้านปิด 

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความตามหาเพื่อน

          จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ตามหาเพื่อนของตน ซึ่งเพื่อนคนดังกล่าวได้หายตัวไปอย่างปริศนา โดยเจ้าของโพสต์ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการนัดกินเลี้ยงวันเกิดแฟนเพื่อน (นาย ศิริชัย) ที่ร้านอาหาร ถนนเลียบด่วนรามอินทรา หลังจากร้านปิด เวลา 01.00 น. ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งเพื่อนกับแฟนจะต้องขับรถกลับบ้านที่นนทบุรี และระหว่างขับรถกลับบ้านก็มีเรื่องทะเลาะกัน เพื่อนก็ได้ลงจากรถซึ่งเป็นซอยที่ใกล้จะถึงบ้านเวลา 03.00 น.จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

น้องนุ่น

สามีของน้องนุ่นเข้าแจ้งความ

          จากนั้นในเวลาต่อมา นายศิริชัย สามีของ น.ส.ชลลดา หรือ น้องนุ่น ได้อุ้มลูกเดินทางมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.ปากเกร็ด เข้าแจ้งความถึงการหายตัวไปของภรรยาหลังมีปากเสียงทะเลาะกันในรถ แล้วภรรยาเปิดประตูลงรถไปเรียกแท็กซี่ ก่อนหายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้

แม่ติดใจสาเหตุการหายตัวไปของลูกสาว

          โดย น.ส.เพ็ญ แม่ของน้องนุ่น ติดใจสาเหตุการหายตัวไปของลูกสาว เนื่องจากที่ผ่านมานาย ศิริชัย มีพฤติกรรมใช้กำลังทำร้ายร่างกายลูกสาวของตนเป็นประจำ อย่างการทะเลาะกันถึงขนาดบีบคอ เอาเท้าเหยียบหน้าน้องนุ่นเป็น 10 ครั้ง โดยทางฝ่ายแม่น้องนุ่นต้องการให้ นาย ศิริชัย ไปชี้จุดที่รถวิ่ง และจุดที่น้องนุ่นหนีลงรถไปขึ้นแท็กซี่ ก่อนที่จะหายตัวไป เพราะแม่มีความสงสัยเกี่ยวกับคำบอกเล่าของนาย ศิริชัยหลายจุด 

          จากการสอบปากคำนาย ศิริชัย ให้การว่า ภรรยาเคยไปทำงานที่ปอยเปตและจุดสุดท้ายของ GPS คือ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นชายแดนปอยเปต จึงได้ประสานเช็กไปทาง ตม. แถวปอยเปต มีภาพออกไปปอยเปตเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา

          ขณะที่ นายศิริชัย ยืนยันมาตลอดว่า ไม่ได้ฆ่าอำพราง น.ส.ชลลดา หรือ น้องนุ่น และสร้างเรื่องตามหาแฟน ตามกระแสข่าว พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจ และยืนยันจะตามหาแฟนสาวอย่างสุดความสามารถ

สามีโหดสารภาพฆ่าน้องนุ่น

         กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านของนาย ศิริชัย สามีของน้องนุ่น ภายในหมู่บ้านดังย่านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็น พบรถยนต์เก๋งหรู BMW สีขาว หมายเลขทะเบียน 6644 กทม จอดอยู่ภายในบ้าน ก่อนทางตำรวจจะควบคุมตัวนายนายศิริชัย มาที่ห้องสืบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

         ทางด้านตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เค้นสอบนายศิริชัย หลังพบพิรุธหลายประเด็นไม่ตรงกับคำให้การ นานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนนายศิริชัย ยอมรับสารภาพเป็นคนลงมือฆ่าภรรยา โดยสาเหตุเบื้องต้นมาจากการทะเลาะกัน เนื่องจากดื่มสุราและเมา ภรรยาพูดถึงแฟนเก่าของตน จึงทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายระหว่างเดินทางกลับ และถึงบ้านก็ก่อเหตุทำร้ายภรรยาอีกครั้งจนฝ่ายหญิงเสียชีวิต 

น้องนุ่น

         โดยนาย ศิริชัย ได้พาชุดสืบสวนไปดูที่บ้านพัก พบบริเวณพื้นถนนและกำแพงภายในบ้านมีคราบเลือดติดอยู่ จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้สารภาพอีกว่าหลังจากที่ ภรรยาของตนเสียชีวิตแล้ว ตนได้นำศพออกจากบ้านในวันที่ 18 ก.พ.67 เวลา 09.00 น. เพื่อเอาศพไปทำลาย ที่ปราจีนบุรีด้วยการนำศพของ น้องนุ่น ใส่ไว้ในกระเป๋าและเอาไว้ตรงเบาะด้านหลังฝั่งซ้าย และมีลูกนั่งไปด้วยตลอดเวลา

พบกะโหลก-กระดูกมนุษย์ถูกเผาในป่ายางพารา

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 67 ร.ต.ท. กิตติพงศ์ สีหบุตร รองสารวัตรเรียนสอบสวนสภ.ระเบาะไผ่ รับแจ้งว่า พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผากลางป่ายางฯ ในตำบลหนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู 

น้องนุ่น

          จุดเกิดเหตุพบรอยเผาศพ และ พบสร้อยข้อมือลายคล้ายกับที่น้องนุ่นสวมใส่ขณะที่ยังมีชีวิต ชุดสืบสวนจึงได้ประสานพนักงานสอบสวน ให้ส่งภาพในที่เกิดเหตุไปวิเคราะห์สร้อยข้อมือ พบว่าเป็นลายเดียวกัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น จุดที่พบโครงกระดูก ใกล้เคียงกับ พิกัด GPS โทรศัพท์มือถือสุดท้ายของน้องนุ่นที่หายตัวไป 

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากนั้นจะคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนที่จุดเผา จ.ปราจีนบุรี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube