กลับมาอีกครั้งกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ครม.ได้ไฟเขียวให้มีเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงการปรับปรุงรายละเอียดใหม่ จะมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง ไปอ่านเลย
1.โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ใช้งบประมาณ 5,700 ล้านบาท
สำหรับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ที่จะใช้วงเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 5,700 ล้านบาท ในการดำเนินการต่อจากเฟส 1 และเฟส 2 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้จะมีการขยายเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านสิทธิ์
2.เริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2564
สามารถเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2564 สาเหตุที่ล่าช้าไม่ทันช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ สาเหตุมาจากตัวระบบที่ธนาคารกรุงไทยนั้นต้องเร่งดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสหรือทุจริตโครงการฯ แบบที่ผ่านมา
3.ผู้ประกอบการจะต้องแจ้งจำนวนห้องพักและราคาให้กับ ททท.
วิธีการใช้งาน “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ของทางฝั่งผู้ประกอบการโรงแรมนั้นจะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมา คือครั้งนี้จะต้องมีการกดให้ความยินยอมในระบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทาง ททท. สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แล้ว ททท. ก็จะเอาข้อมูลห้องพักต่างๆ ที่จดทะเบียนไว้กับทางมหาดไทยมาเช็คดูว่าว่าโรงแรมแต่ละแห่งนั้นมีจำนวนห้องเท่าไหร่
ซึ่งแต่ละโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการจะต้องส่งจำนวนห้องพักและช่วงเรตราคาของห้องพัก (ราคาสูงสุด-ราคาต่ำสุด) ให้ทางททท.เพื่อตรวจสอบข้อมูล
4.ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องลงทะเบียนและจองที่พักล่วงหน้า 7 วัน
เงื่อนไขการใช้งานของประชาชนทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยว จะต้องลงทะเบียนกับทางโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ก่อน จากนั้นให้จองที่พักที่เข้าร่วมโครงการ
สำหรับการจองที่พัก จะต้องทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ทางธนาคารกรุงไทยได้จัดส่งข้อมูลให้ ททท. จากนั้นทาง ททท.จะทำการตรวจสอบว่าการจองนั้นมีความผิดปกติหรือไม่
5.ผู้ใช้สิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ต้องสแกนใบหน้า
สำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่จะมาใช้สิทธิ์นั้น เมื่อมีการเข้าพักในโรงแรมที่จองไว้จะต้อง “สแกนใบหน้า” หลังจากสแกนใบหน้าไปแล้วจะมีข้อมูล GPS ติดไปด้วย ตรงนี้จะเป็นขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาเพื่อการใช้งานที่โปร่งใสมากขึ้น
6.E-Voucher มีการปรับปรุงใหม่ มีเแค่ราคา 600 บาทเท่านั้น
แต่เดิมที่เคยกำหนดไว้ว่า E-Voucher ราคา 900 บาทจะใช้ในวันธรรมดา และ E-Voucher 600 บาทจะใช้ในวันหยุด แต่ในการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ในครั้งนี้ จะปรับมูลค่าเป็น E-Voucher 600 บาทต่อวัน มีแค่ราคาเดียวเท่านั้น
7.ต้องท่องเที่ยวและพักค้างคืนข้ามจังหวัดเท่านั้น
กรอบพื้นที่ในการเดินทางท่องเที่ยวนั้นแต่เดิมเคยระบุไว้ว่าสามารถใช้สิทธิ์ท่องเที่ยวพักค้างคืนในจังหวัดเดียวกันกับภูมิลำเนาได้ แต่ในครั้งนี้มีการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่คือต้องเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเท่านั้น
วิธีการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่สนใจลงทะเบียนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” (อ้างอิงวิธีจากเฟส 1 และ เฟส 2 )
- ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
- ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ (รออัพเดทวันอีกครั้ง) ต้องเป็นประชาชนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ทุกวันเวลา 06.00-21.00 น.
- กดยอมรับ ข้อตกลงและความยินยอม
- กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์
- รอข้อความรหัส OTP ทางโทรศัพท์ แล้วกรอก OTP เข้าสู่ระบบ
- ระบบจะได้รับข้อมูล รอ SMS ยืนยันภายใน 3 วัน
วิธีการจองโรงแรม (อ้างอิงวิธีจากเฟส 1 และ เฟส 2 )
- โครงการมีการจำกัดจำนวนสิทธิ์อยู่ โดยแต่ละคนสามารถจองได้ไม่เกิน 5 ห้อง/คืน/คน ผ่านช่องทางโดยตรงของโรงแรมก็ได้ หรือจองผ่านบริการจองที่พัก-ตั๋วเครื่องบินออนไลน์ (OTA) ที่เข้าร่วมรายการ
- ติดตามความพร้อม OTA ผ่านเราเที่ยวด้วยกัน.com ว่ามีบริษัทใดเข้าร่วมบ้าง
- จองกับโรงแรมโดยตรง ถ้ามีอยู่ในรายชื่อ ก็ติดต่อโดยตรงได้เลย โดยประชาชนต้องแจ้งเลข 4 หลักท้ายบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดียวกับที่ใช้ในแอปฯ เป๋าตัง โรงแรมจะส่งข้อมูลการจองมาให้
- สามารถตรวจสอบการจอง เพื่อชำระเงินต่อไปได้
วิธีการชำระเงิน (อ้างอิงวิธีจากเฟส 1 และ เฟส 2 )
- หลังจองโรงแรมสำเร็จจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับรายละเอียดการจอง
- ถ้าข้อมูลถูกต้อง สามารถชำระเงินได้เลย แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็สามารถแก้ไขได้
- ถ้าในกรณีที่ชำระเงินเรียบร้อยไปแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขรายละเอียดได้
- เลือกวิธีการชำระเงิน
- ชำระเสร็จจะได้รับ E-Voucher ไว้เช็คอิน
- จ่ายเงินจะเป็นการยืนยันสิทธิ์
และนี่ก็คือรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขการปรับปรุงของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ” ที่ทางทีม INN ได้นำมาฝากทุกคนกัน หากมีอัพเดทอะไร ไอ.เอ็น.เอ็น จะสรุปมาให้แน่นอน ติดตามไว้ได้เลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news