“เช้า 29 พฤษภาคม” เดดไลน์ ”คดี 112 ทักษิณ” นับถอยหลังทางการเมืองเกมแห่ง “นิติสงคราม”เพิ่มอุณหภูมิอันแผดร้อนสู่ “ไทม์ไลน์” วันที่ “อัยการสูงสุด”นัดสั่งฟ้อง “คดี 112 ทักษิณ ชินวัตร” บิ๊กดีลทางการเมือง ซึ่งสำคัญกว่าทุกภารกิจของ พรรคเพื่อไทย
การทุ่มทุนขับเคลื่อน “พาทักษิณกลับบ้าน” ตัวตน เพลย์เมกเกอร์แห่ง “ทำเนียบจันทร์ส่องหล้า” ถึงเวลาจะต้องจัดส่ง เครื่องบรรณาการ ให้ “ฝ่ายอำนาจนิยม”ตามดีลเพื่อ แม่ทัพใหญ่ การหลุดพ้นจากสภาพความเป็น ตัวประกัน แห่งเกมหรือตกเป็น “ผู้ต้องหา”ในชั้นศาลแลกกับผลแห่งคดีการเมือง ก่อนหน้า “ยิ่งลักษณ์”รอดพ้น “คดีฮั้วโรดโชว์” โดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)มีมติไม่อุทธรณ์ และ “น้องสาว”กำลังจะเดินตามแผน “ทักษิณโมเดล”
หากแต่ “ยิ่งลักษณ์” ยังติดโทษเด็ดขาดจำคุก 5 ปีใน คดีโครงการจำนำข้าว ซึ่งศาลตัดสินไว้ก่อนเกิด “ดีลลับ”ผสมพันธุ์ข้ามขั้วกับพรรค 2 ลุง และ “นักโทษยิ่งลักษณ์”จะต้องอาศัยช่องทางตาม “พรบ.นิรโทษกรรม”ที่ “ทักษิณ”อาจจัดส่ง “หมอชลน่าน ศรีแก้ว”จาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ลงไปขับเคลื่อนวาระสำคัญในสภาผู้แทนราษฏร เคียงคู่กับ “บิ๊กทิน-สุทิน คลังแสง”อาจถูกริบคืน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เก้าอี้ส้มหล่น ส่งมอบให้ “ฝั่งอำนาจนิยม”ตามดีล..
“ทักษิณ” คงไม่ทิ้งน้องสาวไว้ข้างหลัง การปรับ “ครม.เศรษฐา2”และ “คดี112ทักษิณ”จะต้องจบลงใน “ดีลแพคคู่”ควบกับการกลับมาเลี้ยงหลานของ “ยิ่งลักษณ์”
ฉะนั้นอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองจะต้องลงตัว “ผู้นำแห่งจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย” จะต้องรอดคดี อัยการ อาจสั่งไม่ฟ้องให้เป็นคดีคาอยู่ในชั้นศาล ขณะ“โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต” ครม.เศรษฐาก็ได้แสดงความจริงใจแล้ว
เงิน 5 แสนล้านบาทจะถูกกระจายสู่ประชาชน 50 ล้าน คนปลายทาง ต่างตอบแทน ถึง กลุ่มทุนการเมือง ซึ่ง “เสี่ยอ้วน” “ภูมิธรรม เวชชยชัย” แห่งท่าเตียนจะต้องจัดสรรให้คำนิยาม “ธุรกิจขนาดเล็ก”ได้ลงตัวในคำสั่ง “กระทรวงพาณิชย์” เงื่อนไขขอบข่ายการเข้าร่วมโครงการของร้านค้า โชว์ห่วย ร้านสะดวกซื้อทั้งแฟรนไชส์และในเครือบริษัทยักษ์ใหญ่จะต้องได้รับผลประโยชน์ ตั้งแต่การใช้ “เงินดิจิทัลรอบแรก” และที่สำคัญ “รอบ 2” เงิน 5 แสนล้านจะไหลเข้ากระเป๋า “เจ้าสัวห้างค้าส่ง”ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายที่สามารถเปลี่ยนสภาพเป็นเงินบาทได้
ไตรมาส 4 “รัฐบาลเศรษฐา 2”จะสามารถกระจาย “เงินดิจิทัล” ถึงมือประชาชน 50 ล้านคนได้หรือไม่ ขณะธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกมาคัดง้างทุกมาตรการ เช่นเดียวกับจำนวนเงินอีกกว่า 1 แสน 8 หมื่นล้านจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)ยังจะต้องถกปมข้อกฎหมาย การเกณฑ์รมต.แกนนำ จากทุกพรรคร่วมรัฐบาลออกมาตั้งแถวยืนยันความรับผิดชอบ เติมความน่าเชื่อถือ แถลงต่อหน้าประชาชน แต่อาจมีรัฐมนตรีมือกฎหมาย บางรายออกอาการไม่แยกยิ้มด้วย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีถึงระดับแคนดิเดตนายกฯในห้วงแห่งการต่อรองดีลลับสลับเก้าอี้ แม้ช่วงหลังฝั่งเพื่อไทยจะดึงเช็งลงมาถึงตำแหน่งรมว.กลาโหมและรมช.กลาโหมกระทั่งถึงเงื่อนไขบุคคลใดจะเป็นผู้รับตำแหน่งในนาม “ฝั่งอำนาจนิยม”..
จะอย่างไรก็ตาม ภายใต้ดีลการเมืองจะต้องจบลงโดยที่ไม่มีฝ่ายใดผลักมิตรออกไปเป็นศัตรู ขณะฝั่งตรงข้าม “ก้าวไกล”กำลังตักตวงความนิยมขยายฐานความยิ่งใหญ่ขึ้นแม้ในอนาคตพรรคอาจถูกยุบตามเกมแห่ง “นิติสงคราม”หากแต่ผลอาจพิสูจน์ตั้งแต่ชิมลางการบริหารจัดตั้งการเลือก “สมาชิกวุฒิสภา”แบบเลือกกันเอง
การเลือกตั้ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด”(อบจ.)ที่ “พรรคส้ม”กำลังเปิด “ยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมือง”ซึ่ง “ฝ่ายเสรีประชาธิปไตย”เปิดเกมรุกในทุกด้านเพื่อ “ส้มทั้งแผ่นดิน” ฉะนั้นการจัดสรรความสมประโยชน์ทางการเมือง “รัฐบาลเศรษฐา2”จะต้องจบลงด้วยดี โดยเฉพาะตำแหน่ง “รมต.กลาโหม”อันเกี่ยวข้องกับความพร้อมการจัดแถวด้านความมั่นคงของชาติจะต้องอยู่ในบัญชาการของฝ่ายอำนาจ
หากสถาการณ์บ้านเมืองหรือแนวโน้มจะเกิดส้มล้อมเมือง ซึ่งกำลังขยายฐานจิ๊กซอต่อยอดจาก “คนรุ่นใหม่”สู่ความนิยมถึงพ่อแก่แม่เฒ่าอย่างที่ปรากฏการณ์ชิงตัว”พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”ไปถ่ายเซลฟี่เสื้อคอกระเช้าและบรรยากาศการต้อนรับร่วมเล่นน้ำปะแป้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ “ก้าวไกล” ตักตวงคะแนนได้มากโข ขณะ “ผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ไทยแลนด์”กลับหอบครอบครัวหนีไปทัวร์ต่างประเทศ.!?
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews