ขุนศึกเล็ก ป้องกันแชมป์ราชดำเนินกับ เพชรสยาม ตัดสินใครคือยอดมวยยุค “นิวเจน”

ขุนศึกเล็ก ป้องกันแชมป์ราชดำเนินกับ เพชรสยาม ตัดสินชะตากรรม ใครคือยอดมวยยุค “นิวเจน” ในศึก RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ครั้งที่3

ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน เตรียมป้องกันตำแหน่งแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนินกับ เพชรสยาม จ.ภัทรียา เพื่อพิสูจน์ให้ได้รู้กันไปเลยว่าใครกันแน่ที่เหมาะสมจะเป็นยอดมวยแห่งยุค “นิว เจนเนอเรชั่น” ในศึก RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ครั้งที่3 ในวันเสาร์ที่ 11 พ.ค.นี้ ที่เวทีราชดำเนิน

หลังจาก RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ครั้งแรกเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน เอาชนะคะแนน กุมารดอย เพชรยินดีอะคาเดมี่ คว้าแชมป์รุ่นแบนตัมเวท หรือรุ่น 118 ปอนด์ ของเวทีราชดำเนินมาครองได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัลรวมกันถึง 750,000 บาท มาคราวนี้ ถึงเวลาแล้วที่ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน จะขึ้นป้องกันเข็มขัดแชมป์เวทีราชดำเนินเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้ท้าชิงที่จะมาเจอกับเขาในไฟต์นี้ก็คือ เพชรสยาม จ.ภัทรียา แชมป์รุ่น 122 ปอนด์ของเวทีราชดำเนินที่ในอดีตเคยปะทะกับขุนศึกเล็กมาแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา โดยทั้งคู่จะขึ้นประชันฝีมือกันในศึก RWS วันเสาร์ที่ 11 พ.ค. นี้

ทั้งนี้ ขุนศึกเล็กเพิ่งมีอายุแค่ 18 ปี แต่กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมน่าเหลือเชื่อ นอกจากจะเป็นแชมป์ของเวทีราชดำเนิน แชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย และแชมป์ประเทศไทยแล้ว ยังพกสถิติไร้พ่าย 40 ไฟต์ ไม่แพ้ใครติดต่อกันมา 5 ไฟต์ จัดเป็นมวยที่มีลีลาการชกแพรวพราว ครบเครื่อง เปรียบเสมือนนักมวยที่เป็นตัวแทน “นิว เจนเนอเรชั่น” หรือนักมวยรุ่นหนุ่มที่กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นสุดยอดมวยไทยคนใหม่แทนที่นักชกรุ่นพี่ที่เริ่มโรยราลงไป

เช่นเดียวกับ เพชรสยาม จ.ภัทรียาก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าขุนศึกเล็กเลย เป็นมวยหนุ่มอายุ 18 ปีเท่ากัน ผลงานก็โดดเด่นเกินอายุไปมาก เคยเป็นแชมป์รุ่น 108 ปอนด์ของเวทีราชดำเนิน และปัจจุบันก็ยังครองแชมป์รุ่น 122 ปอนด์ ผ่านการชกมาแล้วกว่า 70 ไฟต์ และปัจจุบันก็ทำสถิติชนะติดต่อกันมามากถึง 12 ไฟต์เลยด้วย

การเจอกันในวันเสาร์ที่ 11 พ.ค. นี้ นอกจากจะเป็นการพิสูจน์ว่าใครคือนักมวยไทยที่เจ๋งที่สุดใน พ.ศ. นี้แล้ว ถือว่าเป็นสองนักมวย “นิว เจน” ที่กำลังมาแรงอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น เพชรสยาม มุ่งมั่นจะคว้าเข็มขัดแชมป์เส้นที่ 3 ไปครองให้ได้ เพราะสองครั้งที่เจอกันมาเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ ขุนศึกเล็ก ทั้งสองครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62 ที่จังหวัดมหาสารคาม และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 63 ที่จังหวัดนครราชสีมา แถมการชกใน RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ครั้งนี้ เป็นการชกแบบให้คะแนน โชว์คะแนนทุกยก ทั้งคู่จะต้องเน้นในการออกอาวุธเพื่อให้เป็นคะแนนเพื่อเข็มขัดแชมป์ของเวทีราชดำเนิน เชื่อว่าจะออกมาเมามัน เร้าใจแน่นอน

เท่านั้นไม่พอ ไฟต์ระหว่างขุนศึกเล็กกับเพชรสยามยังถือเป็น RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ครั้งที่สามด้วย หมายความว่านักมวยทั้งสองคนจะมีสิทธิรับเงินรางวัลดังต่อไปนี้ด้วยเช่นกัน

– RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT Winner ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาททันทีนอกเหนือไปจากค่าตัว

– RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT Knockout Award หากมีการน็อกเอาท์เกิดขึ้น เงินรางวัลผู้ชนะจะถูกเพิ่มไปเป็น 1,000,000 บาท

– RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT Honorable Fight Award ถ้านักมวยทั้งคู่ชกกันดุเดือดชนะใจแฟนๆ นักมวยทั้งสองคนก็จะได้รับโบนัสเพิ่มเติมอีกคนละ 250,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าระหว่างชก ตัวนักมวยมีการเต้นกันเกิดขึ้น ไม่มีการออกอาวุธใดๆเป็นระยะเวลายาวนานจนกรรมการให้ใบแดง นักมวยทั้งสองจะหมดสิทธิรับโบนัสทั้งหมดทันที

การชกจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 11 พ.ค.นี้ ที่เวทีมวยราชดำเนิน ในร RWS – Rajadamnern World Series ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางทางทีวีเวิร์คพอยท์ช่อง 23รวมทั้งช่องทางรับชมเพิ่มเติมทาง Youtube : WorkpointOfficial และ Facebook : Workpoint Entertainment นอกจากนั้นแล้วยังมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง ดะโซน (DAZN) สตรีมมิงคอนเทนต์กีฬายักษ์ใหญ่ โดยมีการถ่ายทอดสดไปกว่า 200 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก เริ่มเวลา 21.15 น.

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews