อนุทิน ปัดเสียหน้า ปม “กัญชา” ชี้ให้ คกก.ยาเสพติดตัดสิน ยันพร้อมพูดคุยและรับฟัง เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ
วันนี้ (12 พ.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล จะมีการพิจารณานำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ว่า เรื่องดังกล่าว ต้องผ่านการศึกษา และประเมินซึ่งยังมีขั้นตอนอีกเยอะ โดยจะต้องผ่านคณะกรรมการ 2-3 ชุดก่อนจะมีการดำเนินการใดๆ ที่จะผิดแปลกไปจากปัจจุบันนี้
ส่วนจะกระทบกับผู้ที่ปลูกกัญชาในปัจจุบันหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างมีผลดีผลเสียหมดฉะนั้นจะต้องมาพิจารณาดู ซึ่งข้อมูลจากเมื่อปี 2565 จากการปลดล็อคกัญชา มีอะไรที่แตกต่างจากข้อมูลในปี 2567 นี้หรือไม่ หากมีความแตกต่างก็สามารถนำมาพิจารณาใหม่ได้ ซึ่งตนในฐานะที่เป็นคณะกรรมการชุดเก่าก็มีข้อมูลอีกชุดนึง
และคณะกรรมการชุดใหม่ ก็อาจมีข้อมูลอีกชุดหนึ่งจึงจะต้องมาหารือกัน แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวไว้ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ และหากเป็นไปตามการตัดสินใดๆตนก็ยอมรับในการตัดสินใจนั้น
โดยนายอนุทิน ยืนยันว่าไม่มีเสียหน้าเรื่องของการนํากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และเรื่องนี้จะไม่มีผลต่อการร่วมงานในรัฐบาล ขออย่านำประเด็นกัญชามาเป็นเรื่องทางการเมือง และตนได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้วซึ่งได้พูดเหมือนกับที่ชี้แจงกับสื่อ
ส่วนคณะกรรมการยาเสพติดแห่งชาติ ปัจจุบันตนไม่แน่ใจว่า เป็นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือนายพีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ใครเป็นประธานคณะกรรมการฯ และหากมีการโหวตตนเองก็จะโหวตตามข้อมูลที่มี ซึ่งหากผลโหวตออกมาอย่างไรตนเองก็พร้อมที่จะยอมรับ จะได้เลิกคิดว่าประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นทางการเมือง ฉะนั้นหากมีข้อมูลที่เป็นข้อมูลปัจจุบัน ขอให้นำข้อมูลใหม่เข้ามา อย่าเป็นเหตุทางการเมือง เพราะหากใครเข้ามาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีก ก็อาจจะเปลี่ยนอีก ซึ่งทำไม่ได้ เพราะจะใช้อารมณ์ส่วนตัวมาพิจารณาไม่ได้
ทั้งนี้ในส่วนของพรรคการเมืองอื่นที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าควรนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคการเมืองนั้นๆ แต่ไม่ใช่นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ฉะนั้นจะต้องมาว่ากันด้วยเหตุผลดีที่สุด พร้อมย้ำว่า ตนเองจะไม่ต่อต้านหรือเป็นคลื่นใต้น้ำ เพราะมาอยู่กระทรวงมหาดไทยแล้ว
ส่วนจะชดเชยผู้เสียผลประโยชน์ในการลงทุนไปแล้วอย่างไรนั้น ขอให้ใจเย็นๆ เพราะนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้ กระทรวงสาธารณสุขไปศึกษาก่อน และจากนี้ไปควรไปถามกระทรวงสาธารณสุข โดยยึดประโยชน์ของประชาชน ทั้งจากผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews