พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงการจัดงานต่อต้านคอรัปชั่นในปีนี้ ที่เป็นการย้ำถึงผลการดำเนินงานของหน่อยงานว่าเป็นผลมากแค่ไหน และขณะนี้ประชาชนตื่นรู้ในการระวังการคอรัปชั่นมากขึ้น ทำให้ภาคประชาชน ภาคเอกชน ในสังคมร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง ตามแนวทาง ไม่ทำ ไม่ทน ไม่เฉย และในปี 2562-2563 ก็มีค่าเฉลี่ยประพฤติมิชอบลดลงรวมถึงเรื่องการตรวจสอบโครงการต่างๆของรัฐ ที่ดำเนินการจ่อเนื่องมาโดยตลอด ส่วนกระบวนการเร่งรัดคดีค้างเก่า ก็เชื่อว่าจะจบสิ้นในเร็วๆ นี้ และก็จะพยายามสร้างมาตรฐานการทำงานให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะเห็นได้จากหลายคดีที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของท้องถิ่นที่มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ทำให้ผู้ที่คิดจะทุจริตก็ไม่กล้าที่จะทำการทุจริตต่อ และการร้องเรียนการทุจริตก็จะลดลง นอกจากนี้ประชาชนที่ร่วมกันจับตาการคอรัปชั่นต่างๆ ก็มีช่องทางมากขึ้นในการส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทุจริต สำหรับคดีต่างๆที่คาดว่าจะสามารถสรุปผลหรือดำเนินการแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป และ ป.ป.ช.เอง ก็จะเร่งตรวจสอบคดีค้างเก่าและคดีที่เข้ามาใหม่ควบคู่ขนานกันไป สำหรับกรณีที่ นายเกรียงไกร ลิกิจวัฒนะ ยื่นร้องขอให้ตรวจสอบ นายกรัฐมนตรี ได้รับสิทธิ์อยู่บ้านพักรับรองรวมทั้งค่าไฟค่าน้ำ อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ.2561 เพราะถือได้ว่ารับประโยชน์เกิน 3,000 บาทนั้น หากมีกรณีการยื่นร้องเข้ามาก็ต้องรับไว้แต่ต้องมีการพิจารณาก่อนว่าสิ่งที่ร้องมานั้น เข้ากระบวนการตามกฎหมายที่จะสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ แม้ศาลจะวินิจฉัยเสร็จสิ้นแล้วในเรื่องของกรณีบ้านพัก แต่ก็สามารถที่จะดูกฎหมายอื่นประกอบได้ แต่หากไม่มีข้อกฎหมายไหนเข้าข่ายก็ต้องถือว่าการร้องนั้นตกไป
ข่าว
ประธานปปช.พร้อมรับคำร้อง”เรืองไกร”
09 ธันวาคม 2020 - 08:54