Home
|
อาชญากรรม

คุมเจ้าของบ้านจัดปาร์ตี้จน”พริตตี้วาวา”ดับฝากขัง

Featured Image
ตร.พหลโยธิน คุมเจ้าของบ้านกับเพื่อนรวม 3 คน จัดปาร์ตี้จน”พริตตี้วาวา” เสพยาตาย ฝากขังศาล – ให้ประกันคนละ 3 แสน

พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธินได้นำตัวนายทรงศักดิ์ หรือกอล์ฟ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านจัดปาร์ตี้, นายสารพล หรือโอม อายุ 27 ปี และนายธนะพันธ์ หรือปอ อายุ 38 ปี ชาว จ.ชุมพร ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของ พริตตี้วาวา มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญารัชดา ครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. – 10 เม.ย. นี้ เนื่องจากยังต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหา และอื่น ๆ

โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์ผู้ต้องหาสรุปว่าเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 64 นายทรงศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 เจ้าของบ้านได้นัดเพื่อนๆ ซึ่งรวมถึงผู้ต้องหาที่ 2-3 ประมาณ 25 คน มารับประทานอาหารและดื่มสุรา บริเวณชั้น 2 ของบ้าน โดยมีการจ้างพนักงานบริการหญิงหรือพริตตี้  8 คนมาร่วมงานตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. จนถึงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 24 ก.พ. ต่อมามีคนเห็น น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตี้วาวา ที่จ้างมามีอาการอาเจียน เหมือนคนเมา นายทรงศักดิ์ จึงให้นอนพักที่ชั้น 4 ของบ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงนำตัวส่ง รพ.เปาโลเมโมเรียลเกษตร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจพิสูจน์ของแพทย์สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พบว่าในเลือดของผู้ตายมีเมทแอมเฟตามีน 3,4-เมทีนลีนไดออกซิเมทแอมเฟตามีน หรือยาอี จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า นายทรงศักดิ์ นำยาเสพติดมาวางในจานโดยมีผู้ต้องหาที่ 2-3 นำไปอบในเตาไมโครเวฟ จนแห้งเป็นเกร็ดแล้วนำมาเสพกัน กระทั่งพริตตี้วาวา ได้เสียชีวิตลง

โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 64 พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวผู้ต้องหาทั้งสามมารับทราบข้อกล่าวหา ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาญาติผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสาม โดยศาลพิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้งสามประตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 3 แสนบาท

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube