การเลือกกันเองของ “200วุฒิสมาชิก” ย่อมมีความสำคัญยิ่งต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบครึ่งใบไทย แม้ไม่มีอำนาจหน้าที่ต้องลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี”เยี่ยง “250สว.ลากตั้ง”ตามบทเฉพาะกาล “รัฐธรรมนูญฉบับคสช.”แล้วก็ตามที
“200สว.ชุดเลือกกันเอง”ยังมีอำนาจและหน้าที่สำคัญ นอกเหนือจาก “การกลั่นกรองกฎหมาย” “การตรวจสอบควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน” แต่ “สว.200ชุดใหม่”นี้ต้องให้ความเห็นชอบต่อ “บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ” อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) และคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ที่กำลังทำคลอดและประกาศรับรอง “200 สว.เลือกกันเอง“ชุดสีน้ำเงินนี้ด้วย..
การเมืองที่ยังอยู่ในห้วงเหวแห่ง “ทฤษฎีต้นไม้พิษ” ยังคงอิทธิฤทธิ์ ต่อ “ระบบรัฐสภา”ย่อมมีความสำคัญมากกว่าการต่อสู้ทางการเมืองใน “ระบอบประชาธิปไตยเสรี” โดยเฉพาะ “นิติสงคราม”ยังต้องใช้ความได้เปรียบในเครื่องไม้เครื่องมือจากผลแห่ง “รัฐธรรมนูญคสช.” อันทรงอำนาจชี้ผิดชี้ถูกต่อข้อขัดแย้งทางกฏหมาย และ ผลประโยชน์ทางการเมืองได้เบ็ดเสร็จ “200สว.ชุดเลือกกันเอง”จึงเป็นที่จับจ้องของผู้คนแม้ที่มาอาจไม่จัดแจ้งไม่ยึดโยงกับประชาชน
แต่จะส่งผลต่อสมการทางการเมืองทั้งในและนอกระบอบประชาธิปไตย เฉพาะอย่างยิ่งสังคมที่ยังยึดโยง “แนวธนกิจการเมือง”ในยุค “กระดาษชนะฆ้อน”เงินตราบันดาลและทำลายได้ทุกสรรพสิ่ง เพียงแต่จะสังกัดฝ่ายใด การตรวจสอบภูมิหลังการได้มาซึ่ง “200 สว.” หากเสียงมากกว่า 165 หรือเสียงส่วนน้อยเหลือไม่ถึง 35 เสียงหรือ 1ใน 3 เท่ากับการปิดโอกาสเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับผลไม้พิษคสช..
“อนุทิน ชาญวีรกูล”แห่งภูมิใจไทย ศิษย์ “ครูใหญ่เนวิน” ที่เคยเป็น “แมวเชื่อง”เข้าได้กับทุกขั้วปรากฏตัวทุกที่ที่มีนายกฯ แต่ยังไม่เว้นถูกกระแทกกระทั้นด้วยท่าทีและผลประโยชน์ทับซ้อนหรือขัดกันกับฝั่งเพื่อไทย ทั้งนโยบายกัญชาไม่เสรี
การยกเลิกโครงการดิวตี้ฟรี ซึ่งเป็น “กลุ่มทุนหลัก”ของ “พรรคสีน้ำเงิน” และดูเหมือน “เพื่อไทย” ยังวางยุทธศาสตร์เป็นคู่แข่งทางการเมืองทั้งในอนาคตและปัจจุบัน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนเชื่อมปฏิสัมพันธ์ ต่อ “กลุ่มการเมืองบ้านใหญ่”ตามหัวเมือง ผูกมิตรกับการเมืองท้องถิ่น โชว์ “มนตร์ขลัง” ผลชนะเลือกตั้ง “นายกฯอบจ.ปทุมธานี”แต่ไม่เอาผลคดีปปช.ชี้มูลความผิดคดีโกงจัดซื้อจัดจ้าง เคลมผลลงานใส่ตัว นโยบายเรือธง “ซอฟต์พาวเวอร์”รับชอบฉลองความสำเร็จ “สมรสเท่าเทียม”..
การต่อสู่ทางการเมืองห้วงเวลานี้ยังอยู่ใน “พรรคร่วมรัฐบาล”ระหว่างฝั่งมากกว่าขั้วก้าวไกล โดยเฉพาะเพื่อไทยและฝั่งอนุรักษ์ซึ่งฝ่ายหลังเพียงแต่สลับไพ่สว.ใบใหม่เสียงข้างมากจาก “สว.ลากตั้ง”มาเป็น “สว.เลือกกันเอง”จาก “พรรคสีน้ำเงิน” ที่มีแนวคิดและอุดมการณ์ด้านความมั่นคงสอดคล้องต้องกัน เฉกเช่นนี้ท่าทีทางการเมืองของ “ภูมิใจไทย”เสียงย่อมดังมากขึ้น การต่อรองทางการเมืองทรงพลังมากกว่าเดิม การต่อต้านคัดค้านที่มาของ “200สว.ชุดใหม่”จึงเข้มข้น มีความพยายามจะล้มกระดาน ทั้งที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.ให้เลือกกันเองไต่ระดับกันมาตั้งแต่อำเภอจนถึงระดับประเทศ เพียงแต่ฝ่าย “สีน้ำเงิน”ถอดรหัสลับคลี่โจทย์ของ “ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์” ได้ถูกต้อง “พูดแล้วทำ” แม้ “ไม่ชอบธรรม”ตาม “ระบอบประชาธิปไตย”ปฏิเสธเสียงที่มาของประชาชนส่วนใหญ่ของแผ่นดิน..แต่อาจจะเสียหายน้อยกว่าความบรรลัยของการวมกันของ “ฝ่ายอำนาจกับฝ่ายทุน”!?
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
