บช.น.-191 แถลงผลจับเครือข่ายค้ายาในพื้นที่กทม.
บช.น.-191 แถลงผล จับกุมเครือข่ายยาเสพติด ในหลายพื้นที่ของกทม. 3 คดีสำคัญ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา และยึดของกลางจำนวนมาก
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการจำรวจนครบาล(รองผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. แถลงผลการ จับกุมเครือข่ายยาเสพติด ในเขตพื้นที่นครบาล 3 คดี
โดยคดีแรก เป็นการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่บางแค กลุ่มเพชรเกษม 69 ที่ลักลอบขนยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านเช่าในพื้นที่เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเป็นการขยายผลจากการจับกุมผู้ค้ารายย่อย จนสามารถทราบถึงพฤติกรรมและที่ซุกซ่อน ทำให้สายสืบได้ติดตามพฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ได้เข้าจับกุม สามารถจับกุมนายธวัชชัย และพวกรวม 2 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 854,000 เม็ด ไอซ์ 386.9 กรัม เคตามีน 890 กรัม ฯลฯ จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายอมรับว่า ทำมาตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย.63 และส่งให้กับชุมชนในพื้นที่ วันละกว่า 10 ครั้ง เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและขยายผลถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ส่วนคดีที่ 2 เป็นผลงานของชุดสืบสวนงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจ ได้ขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ ประกอบกับได้รับแจ้งข้อมูลว่า มีกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่อ่อนนุช พระโขนง ว่ามีกลุ่มที่เปิดขายยาเสพติดผ่านระบบไลน์และส่งผ่านไปรษณีย์ ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวมีนายพีรพล หรือนู และนายวรวัฒน์ หรือรี่ ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ดังกล่าว กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมนายพีรพล ได้ที่ริมถนนพัฒนาการหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาพัฒนาการ เขตประเวศ และติดตามไปจับกุมนายวรวัฒน์ ได้ที่ท้ายซอยอ่อนนุช 53
จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปขยายผลจนทราบว่า รับซื้อกัญชามาจากนายบัง ไม่ทราบนามสกุลจึงขยายผลจากข้อมูลดังกล่าวไปเจอตัวนายนครินทร์ ที่ซอยอ่อนนุช 62 แยก 6 เขตพระโขนง และที่บ้านแห่งหนึ่งในซอยปุณณวิถี 11 ถ.สุขุมวิท 101 เขตพระโขนง พบของกลางเป็นกัญชา 217 กิโลกรัม อุปกรณ์สำหรับแพ็คยาเสพติด กล่องพัสดุ 51 กล่อง กระดาษสติ๊กเกอร์สำหรับส่งไปรษณีย์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ต่างๆจำนวนมาก
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า จำหน่ายยาเสพติดในย่านอ่อนนุชพระโขนง และทางระบบ line โดยตั้งชื่อกลุ่มว่า happy meal และปาปิก้า เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนก.พ.63 โดย ใน 1 เดือนสามารถจำหน่ายยาเสพติดได้รวม 100 ก.ก. มูลค่ากว่า 1 แสนบาท มีการไปรับยาเสพติดมาจำหน่ายจากย่านวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนเงินที่ได้จะนำไปเลี้ยงลูกและใช้จ่ายส่วนตัว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหามียาเสพติดกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน. ประเวศดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนคดีสุดท้ายเป็นการจับกุมของงานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ ที่เฝ้าระวังสืบสวนในโลกออนไลน์จนพบว่า มีบุคคลลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางโซเชียล กระทั่งเจ้าหน้าที่นำข้อมูลที่รวบรวมได้ไปจับกุมนายธีรภัทร อายุ 20 ปี บริเวณปั๊มน้ำมันย่านลาดพร้าว เขตวังทองหลาง และนำตัวไปขยายผลที่บ้านหลังหนึ่งในซอยลาดพร้าว 93 ตรวจค้นพบอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก, อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก, ซองแม็กกาซีน 2 ซอง, กระสุนปืนชนิดต่าง ๆ มากกว่า 150 นัด, ระเบิดมือประเภทควัน 1 ลูก และยังพบยาเสพติดประเภทยาบ้าไอซ์และยาอีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ไปซื้อปืนมาจากกลุ่มในโลกโซเชียล ชื่อกลุ่มเพชรอุมา ก่อนจะนำมาจำหน่ายในกลุ่มของตัวเองโดยใช้ชื่อว่าเศษเหล็กอันตราย โดยเริ่มจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนต.ค.63 โดยจะได้ค่าส่วนต่างกระบอกละ 2-3 พันบาท ส่วนระเบิดควันเป็นของสะสมที่แอบขโมยมาจากการเรียนรด. เพราะมีความชื่นชอบในอาวุธปืนและวัตถุระเบิดเป็นพิเศษจึงต้องการเก็บสะสมและจำหน่าย ส่วนเงินที่ได้จะนำไปหมุนเวียนซื้อคอมพิวเตอร์และอาวุธปืนมาจำหน่ายในกลุ่ม ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาไม่พบว่ามีประวัติอาชญากรติดตัวหรือร่วมชุมนุมกับกลุ่มใด ส่วนระเบิดควันดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้ใช้ในราชการของบช.น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news