สมาคมกีฬาว่ายน้ำฯเรียกชุดซีเกมส์ประชุม บิ๊กป้อม ย้ำระวังเรื่องสารต้องห้าม และการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อความสำเร็จ
พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาว่ายน้ำเเห่งประเทศไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวการเตรียมทีม นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ชุดลุยศึกซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม ว่าล่าสุดได้มีการประชุมชี้แจงแผนงานของสมาคมกีฬาว่ายน้ำ ให้กับบรรดานักกีฬาว่ายน้ำชุดซีเกมส์ ทั้ง 26 คน และผู้ฝึกสอนของตัวนักกีฬาที่สังกัดอยู่ โดยนักกีฬาชุดนี้จะมีการทดสอบระดับความสามารถเป็นระยะ และจะประกาศรายชื่อผู้ทำสถิติดีที่สุดประจำเดือน เริ่มตั้งแต่ มี.ค. จนถึง ก.ย. จากนั้นค่อยทำการตัดตัวเอานักกีฬาที่ดีที่สุดเป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งขันซีเกมส์ ระหว่างวันที่ 21 พ.ย. ถึง 2 ธ.ค.
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำกับผู้ฝึกสอนและนักกีฬาถึงนโยบายและความห่วงใยของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำ ที่ให้พยายามระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของสารต้องห้าม และอุบัติเหตุระหว่างการฝึกซ้อม รวมถึงการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาใช้กับนักกีฬาว่ายน้ำอย่างเป็นรูปธรรม โดยนักว่ายน้ำซีเกมส์ชุดนี้ จากการประเมินพบว่าสามารถแบ่งออกเป็น3ระดับ คือ
- กลุ่มที่สู้ได้
- กลุ่มที่ได้สู้
- กลุ่มนักกีฬารุ่นใหม่ ที่ตั้งความหวังจะประสบความสำเร็จใน 3-5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้คาดว่าหลังเก็บตัวฝึกซ้อม ภายใน 3 เดือน กลุ่มนักกีฬาที่สู้ได้จะมีจำนวนมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการจะประสบความสำเร็จในซีเกมส์ได้มากขึ้น
พล.อ.เจริญ กล่าวอีกว่า สำหรับรายการอื่นๆที่สมาคมกีฬาว่ายน้ำ เตรียมแผนจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันในปีนี้ เริ่มที่โอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น ระว่างวันที่ 23 ก.ค. – 8ส.ค. ซึ่งไทยได้โควตาไวลการ์ดนักกีฬาทั้งหมด 2 คน ตอนนี้เหลือเพียง นวพรรษ วงศ์เจริญ, แอนดรูว์ เจมส์ ดิกบี้, ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง และ เจนจิรา ศรีสอาด ที่ต้องขับเคี่ยวชิงโควตากัน นอกจากนี้ยังมีรายการ FINA WORLD JUNIOR CHAMPIONSHIP ที่รัสเซีย ในช่วงเดือน ส.ค. และอีก 1 รายการ คือ ASIAN YOUTH GAMES CHAMPIONSHIP ที่จีน เดือน พ.ย. ซึ่งชนกับการแข่งขันซีเกมส์ ทำให้ต้องจัดนักกีฬาอีกชุด เพื่อเข้าร่วมแข่งขันโดยสมาคมฯจะทำการคัดเลือกนักกีฬาอีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news