Home
|
ข่าว

กสทช. ลงมติเอกฉันท์ ไม่หนุนงบถ่ายทอดสด โอลิมปิก-พาราลิมปิกปารีส

Featured Image

 

 

บอร์ด กสทช. ลงมติเป็นเอกฉันท์ ไม่สนับสนุนงบ 435 ล้านบาท ที่ กกท. ขอรับการสนับสนุนจากกองทุน กทปส. ไปใช้เป็นค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดโอลิมปิก และ พาราลิมปิกเกมส์ 2024

 

 

นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ดกสทช.) ครั้งที่ 15/2567 มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ไม่เห็นชอบในการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อจัดหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 และการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 17 ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ขอรับการสนับสนุน จากกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กองทุน กทปส.) จำนวน 435 ล้านบาท หลัง กกท.รายงานต่อคณะรัฐมนตรีว่า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีสภาพคล่องไม่เพียงพอในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด จึงขอรับการอนุมัติงบจากกองทุน กทปส.

 

นพ.สรณ เผยต่ออีกว่า บอร์ดทุกคนมีมติเอกฉันท์ เนื่องจากเห็นว่า การซื้อลิขลิทธิ์ถ่ายทอดครั้งนี้ ได้มีเอกชนได้ไปซื้อสิทธิมาแล้ว จึงเป็นเรื่องที่เอกชนผู้ได้ลิขสิทธิ์ จะนำสิทธิไปบริหารจัดการทางด้านการตลาดเพื่อหารายได้เอง แต่เอกชนก็ต้องก็ต้องปฏิบัติตากฎมัสต์แฮฟ ที่ต้องนำมาถ่ายทอดสดออกฟรีทีวีด้วย

 

สำหรับสาเหตุที่ กสทช.ไม่อนุมัติเงินซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ 2024 มีดังนี้

 

1.หากพิจารณาอนุมัติสนับสนุนเงินจาก กทปส. ไปจะทำให้เกิดปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ กสทช. เป็นผู้กำหนดให้ต้องปฏิบัติ กล่าวคือ การดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศ Must carry จะส่งผลให้ กสทช. ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเข้าข่ายการละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายได้

 

2.การที่ กสทช. ไม่อนุมัติให้มีการสนับสนุนเงินจาก กทปส. จะไม่กระทบต่อการถ่ายทอด และดำเนินการตามกฎ Must Have และกฎ Must Carry เพราะจากข้อมูลที่ปรากฏในสื่อต่างๆ นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่า บริษัท แพลน บีฯ ได้ร่วมกันดำเนินการกับผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน จำนวน 4 ช่องรายการ ได้แก่ ช่อง T Sports 7 ช่อง CH7 HD ช่อง 9 MCOT HD และช่อง PPTV HD 36 แล้ว ซึ่งการถ่ายทอดรายการผ่านผู้ให้บริการดังกล่าว มีกลไกกฎหมาย และเงื่อนไขใบอนุญาตของ กสทช. ที่รองรับให้สามารถออกอากาศรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 และรายการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ผ่านกิจการโทรทัศน์ที่อยู่ในกำกับดูแลของ กสทช. ได้ทั้งหมดอยู่แล้ว และจากกรณีดังกล่าว ประชาชนย่อมมีทางเลือกในการเข้าร่วมรับชมในช่องทางที่เอกชนร่วมกันดำเนินการอย่างหลากหลาย หาก กสทช. พิจารณาเห็นชอบให้สนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ก็จะเป็นการเข้าแทรกแซงกลไกตลาดที่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้วด้วย

 

3.ตามเอกสารร่างสัญญาระหว่างบริษัทแพลน บีฯ กับ กกท. ที่สำนักงาน กสทช. นำเสนอในที่ประชุม กสทช. มีเนื้อหาเป็นการจำกัดขอบเขตสิทธิการเผยแพร่ภาพและแพร่เสียงไว้เฉพาะการออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sport 7) และช่องทางอื่นๆ ของสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sport 7) ไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น การนำเอาเงินจากกองทุน กทปส. ที่ผู้รับใบอนุญาตทุกรายมีหน้าที่ต้องนำเงินส่งเข้ากองทุน กทปส. ไปสนับสนุนตามที่ กกท. เสนอโดยระบุให้สิทธิการถ่ายทอดสดแก่ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินเฉพาะสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sport 7) จะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชน และสร้างความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบกิจการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ทั้งระบบ

 

4.การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์เกมส์ และการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ เป็นหน้าที่และภารกิจหลักของ กกท. และกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ ที่กำหนดไว้ตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ โดยตรง ดังนั้น จึงเป็นภารกิจหลักของ กกท. และกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ดำเนินการโดยชัดแจ้ง นอกจากนี้ การจะกล่าวอ้างว่ามิได้กำหนดไว้ในแผนงานของ กกท. หรือ กองทุนพัฒนาการกีฬาฯ ก็ไม่สามารถรับฟังได้เนื่องจาก เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่าจะมีการดำเนินการในทุกๆ 4 ปี

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube