Home
|
บันเทิงไทย

“มิเรียน” พร้อมเคียงข้าง “พีเค” ไม่โกรธชมหน้าด้าน รับมือได้ทุกดราม่า

Featured Image
“มิเรียน” พร้อมเคียงข้าง “พีเค” ไม่โกรธชมหน้าด้าน รับมือได้ทุกดราม่า เมินคนมองออกตัวแรง

 

ตั้งแต่เปิดตัวว่าเข้ามาอยู่ดูแลหัวใจให้ “พีเค ปิยะวัฒน์” ในวันที่เจอมรสุมดราม่าถาโถม จนแทบเสียหลัก ก็ต้องรับมือกับดราม่าและทัวร์ไม่เว้นวัน สำหรับสาว “มิเรียน สุเดชา  อัคเซลการ์ด”  ล่าสุดเจ้าตัวก็เปิดใจแบบชัดๆอีกครั้ง ไม่คิดฟ้องเกรียนที่เข้ามาคอมเมนต์แรงๆ เพราะคนที่ด่าคือคนที่ไม่ได้รู้ความจริง  ไม่โกรธฝ่ายชายชมออกสื่อ หน้าด้าน รับมือได้ทุกดราม่า รับบอกรักกันทุกชั่วโมงจริง

คนในจะรู้ดี ไม่โกรธเลย เพราะว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนแบบไหน สิ่งที่เขาพูดออกไป เขาน่าจะรู้สึกว่าเราสามารถที่จะพูดอะไรด้วยก็ได้ ไม่โกรธอยู่แล้ว แรงกว่านี้ก็เจอกันมาแล้ว เราให้กำลังใจ พูดทุกวัน ให้กำลังใจ อยู่ด้วยในทุกๆ วัน เราจะให้เขาได้อยู่กับเพื่อน กับครอบครัว กับคุณแม่ก็ได้เจอกันบ่อยขึ้น ไม่ใช่แค่เราที่ทำให้เขาดีขึ้น แต่มีเพื่อนๆ และครอบครัวด้วย

 

“สำหรับดราม่าและทัวร์ ก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ว่าเรามีที่ปรึกษาที่ดี เรามีผู้ใหญ่ มีเพื่อนที่ให้กำลังใจ และรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราเลยก้าวข้ามผ่านตรงนั้นได้เร็ว สำหรับใครที่เจออยู่ อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว คนที่เจอแบบนี้ แนะนำว่าให้หาเพื่อนคุย หาคนปรึกษาที่มองภาพใหญ่กว่าเรา บางทีเราคิดว่าปัญหาเรามันใหญ่มาก แต่คนข้างนอกเขาเห็น และจะรู้วิธีการจัดการของปัญหา แล้วเขาจะบอกเรา แล้วเราก็จะรับฟังสิ่งนั้นมา

 

เอาจริงๆ ไม่มีใครคิดว่ากระแสจะไปทางไหน จริงๆ ขอบคุณสื่อมวลชนมาก ที่ให้ความสนใจและให้โอกาสได้ออกมาพูด เราก็จะได้เรียนรู้ว่า ที่ผ่านมากอะไรที่เราควรทำและไม่ควรทำ พี่พีเคเองก็บอกว่าค่อยๆ เรียนรู้ไป เพราะว่าใหม่มาก อยู่ที่ว่าเราปรับตัวกับสถานการณ์ยังไง คนข้างๆ เราเข้าใจไหม ครอบครัวเราเขาก็ให้กำลังใจ ไม่มีใครซ้ำเติม สิ่งนี้สำคัญมากๆ อะไรที่เราทำผิดไป ก็แค่ยอมรับและมูฟออน ถ้าทำอะไรให้ใครรู้สึกไม่สบายใจ ก็ต้องขอโทษด้วย คอมเมนต์ก็ได้อ่าน บางอย่างก็นำมาปรับใช้ บางอย่างก็ปล่อยผ่าน เราคิดว่าคนที่พูดออกมา เขาต้องการที่จะบอกอะไรเราเสมอ บางคนก็อาจจะมีประสบการณ์มากกว่าเรา เขาก็มาบอกเรา อาจด้วยอารมณ์หรือความเป็นห่วง เราก็รับไว้ทั้งหมด

 

คนมองเราออกตัวแรงอาจจะเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับเรา เราเคยทำงานมา เวลาที่เราทำงาน เวลาเกิดปัญหาอะไร เราจะรีบแก้ทันที เราไม่ใช่ดารา เพราะฉะนั้นเวลาเราออกมาทำอะไรสักอย่าง เราก็อาจจะไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่มันจะกระทบเข้ามา พอมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องยอมรับ ว่าอันนี้คือสิ่งที่เราทำไปนะ ผู้ใหญ่ก็จะถามว่าเรายอมรับได้ไหม อันนี้คือดิจิตอลฟุตปริ้นท์นะ อีกหน่อยลูกยูมาอ่าน ยูจะตอบลูกยูยังไง เราเรียนรู้จากความผิดพลาดของใครบางคนเสมอ เราก็คงอธิบายให้ลูกฟังว่า วันหนึ่งแม่เคยทำอย่างนี้นะ แม่เป็นแบบนี้นะ ลูกจะทำไหม ก็แล้วแต่

ถามว่าเสียใจไหมที่เราออกมาปกป้องเขา แต่สุดท้ายมันตีกับมาหาเขา มันเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง เราก็มีการขอโทษเขา ขอโทษหลายๆ คน ที่ทำให้เกิดผลกระทบ โดยเฉพาะพี่พีเค เห็นเขาแบบนั้น แต่เขาไม่โกรธใครเลย เขาบอกว่าไม่เป็นไร นั่นคือวิธีการเรียนรู้ แต่ในครั้งหน้า การที่เราจะบอกว่าเขาน่ารักยังไง เราเอาจะต้องเบาลง ค่อยๆ ทำ ไม่ต้องรีบ”

 

ที่ไม่ออกมาพูด จริงๆ การตีความของข่าว มันก็ไม่ได้ตรงประเด็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราเลยไม่ได้รู้สึกว่า เราจะต้องออกมาพูดอะไร ให้เรื่องมันมีผลกระทบไปมากกว่านี้ อย่างที่บอกว่า ในสงครามไม่มีใครบาดเจ็บกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นให้เรื่องนี้มันจบที่เราแล้วกัน ส่วนเรื่องอื่นจะเป็นไปในทางไหน มันก็แล้วแต่การตัดสินใจ ให้มันเป็นเรื่องของอนาคต เหตุผลที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาพูดเลย เพราะเราอยากให้ทุกคนก้าวผ่านตรงนี้ไป อยากให้ทุกคนมูฟออน ให้ทุกคนมีความสุข เรียนรู้จากเรื่องที่เกิดขึ้น”

 

สำหรับคอมเมนต์แรงๆ ไม่ได้ติดใจเลยค่ะ เขาไม่ได้รู้ เขาเพียงแค่เขียนและไปตามกระแสสังคม มันก็อาจจะเป็นบทสะท้อนของเขาที่เขาเคยเจอมา เขาเลยต้องมาเขียนที่เรา ไม่โกรธคะ ประโยคไหนที่อ่านแล้วจี๊ด มันไม่เชิงปล่อยผ่านคะ เราแค่ทำความเข้าใจ ว่ามันเป็นผลกระทบที่เราทำ และนี่คือสิ่งที่เราได้รับ

 

ระวังมากขึ้นไหม เราก็ยังเป็นตัวของตัวเองอยู่ เพียงแค่ว่าการเป็นตัวของตัวเอง บางทีอย่างคุยกับพี่พีเค เราอยากพูดอะไรออกมาจากใจ แต่บางทีใจอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องใช้สมองด้วย ก่อนหน้านี่อาจจะใช้ใจเยอะไปหน่อยค่ะ ตอนนี้อาจจะต้องหายใจลึกๆ ใช้สมองด้วย ก็เป็นการเรียนรู้ที่ดี แล้วก็คิดว่าถ้าไม่ใช่พี่เขา ก็คงไม่มีโอกาสได้มาเรียนรู้อะไรแบบนี้

 

 

ที่เขาสัมภาษณ์ว่าบอกรักทุกชั่วโมง ก็มีทวงคะ ว่าเห็นไปให้สัมภาษณ์ว่าบอกรักกันทุกชั่วโมงใช่ไหม ชั่วโมงนี้ยังไม่ได้บอกเลยนะ บอกหรือยัง แต่การบอกรัก มันเป็นเรื่องที่เราทำกับลูกเรา  เราก็จะบอกเขาตลอด สำหรับคนที่กำลังอยู่ในภาวะที่เรารู้สึกว่าเราไม่มีค่า การบอกรักเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่า อย่างน้อยมีคนเห็นค่าเขานะ ก็พยายามคุยกับเขา ว่าอะไรที่ทำให้เจ็บ ทำให้เศร้าอยู่ ก็รู้สึกว่าได้อัปเลเวลของการอยู่เคียงข้างใครสักคน

 

อนาคตเราก็คุยกับเขา ภาวนาให้ทุกอย่างมันจบ โดยที่ทุกคนมีความสุขมากที่สุด เราจะได้โฟกัสถึงอนาคต ว่าเราจะไปทางไหน แต่ถามว่า ณ วันนี้มองใครอื่นไหม ก็ไม่มี เพราะเวลาที่ให้ไปทั้งหมด ก็คือเวลา ณ ปัจจุบันที่เรามีกับเขา ล่าสุดรุ่นพี่เพิ่งเสียชีวิตไป เราก็รู้สึกว่าชีวิตมันก็สั้นๆ เพราะฉะนั้น ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตเป็นเรื่องของการแผนมากกว่า ว่าเราจะอยู่ยังไง ใช้ชีวิตยังไง ก็มีเขาอยู่ในนั้น เราสองคนรู้ดีที่สุด ว่าเรารู้สึกต่อกันยังไง อย่างที่บอกว่าความรักไม่ใช่เรื่องของสองคน มันเป็นเรื่องของคนรอบข้าง ถ้าเกิดคนรอบข้างแฮปปี้ ลูกเราแฮปปี้ ครอบครัวเรา ครอบครัวเขาแฮปปี้ มันก็รู้กันอยู่เท่านี้

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube