วิ่งฉิวกันเลยทีเดียวสำหรับราคาทองในตลาดโลก หลัง “นายเจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ตอกย้ำคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน กันยายน 2567 โดยเขาได้กล่าวบนเวทีการประชุมประจำปีของเฟดที่เมือง แจ็กสัน โฮล เมื่อวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ราคาทองตลาดโลก หรือ Gold Spot พุ่งขึ้น เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,513.50 เหรียญสวนทางกับราคาทองไทยที่ยังไม่ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นล่าสุด สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาซื้อขายทอง ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 ราคาปรับลง 100 บาทต่อบาททองคำทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 40,350 บาท ขายออก 40,450 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 39,628 บาท 24 สตางค์ ขายออก 40,950 บาท
ขณะที่ภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองในประเทศปรับขึ้นลงแรง โดยวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2567 ราคาปรับลงทันที 150 บาททันทีที่เปิดตลาด และยังร่วงลงต่อเนื่องในวันอังคาร วันพุธ อีก 200 บาท และ 150 บาท ก่อนที่วันพฤหัสบดีราคาจะปรับขึ้น 50 บาทในช่วงท้ายตลาด และวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม ร่วงลง 150 บาททันทีที่เปิดตลาด
ทั้งนี้ มีความเห็นจากนายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ถึงภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเวลาดังกล่าวโดย “นายจิตติ” กับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกผันผวนมาก โดย Gold Spot พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ ยืนเหนือ 2,500 เหรียญ แต่ราคาทองในประเทศกลับร่วงลง เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น
“สัปดาห์นี้ก็ขึ้นลงแรงพอสมควร สำหรับต่างประเทศก็ทำนิวไฮ 2,500 กว่า ต่างประเทศทำนิวไฮแต่ในประเทศกลับลดลง เพราะว่าเงินบาทแข็งค่า ซึ่งเงินบาทในช่วงนี้ผันผวน ถ้าเทียบแล้วแข็งค่าขึ้นมาประมาณเกือบ 5% เลยทำให้ทองคำถูกลง”
“นายจิตติ” กล่าวอีกว่า ในระยะกลาง และระยะยาวมีโอกาสที่ราคาทองโลกจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งปีนี้อาจจะได้เห็น 2,600 เหรียญ โดยมีปัจจัยหนุนจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
“ดูแนวโน้มว่าราคาทองถ้าในตลาดโลกเดือนหน้า จะมีการพิจารณาดอกเบี้ย คาดการณ์ว่า อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพราะฉะนั้นแนวโน้มคิดว่าราคาทองคงอาจจะทำนิวไฮอีกรอบนึง แต่มองแนวโน้มระยะยาวถึงสิ้นปี คิดว่าราคาทองคำอาจจะปรับขึ้นต่อเนื่อง ปีนี้อาจจะมีโอกาสเห็น 2,600 เหรียญ”และเมื่อถามถึงกลยุทธ์การลงทุนทองคำในห้วงจังหวะที่ราคาผันผวนจะต้องวางแผนอย่างไร เพื่อต่อยอดสู่ความมั่งคั่ง คำตอบที่ได้ น่าสนใจ
“ผมมองว่าถ้าเป็นการลงทุนสำหรับเงินเย็นลงทุนระยาว ผมว่า เก็บเป็นทองคำ คิดว่าโอกาสที่จะทำกำไรดีกว่า แต่ถ้าเก็งกำไรระยะสั้นๆ ต้องระมัดระวังผันผวน บางทีขึ้นลงวันนึงหลายสิบเหรียญ”ทั้งนี้ นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า ราคาทองไทยจะไม่หลุด 40,000 บาทต่อบาททองคำ
ขณะที่ “น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก กล่าวว่า ปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นมาทำจุดสุงสุดใหม่ที่ราคา 2,531 เหรียญ คาดว่ามาจากปัจจัยเรื่องของสงครามที่มีความตรึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ขู่ว่าจะทำสงครามโต้กลับ ส่วนปัจจัยต่อมาคาดว่ามาจากปัจจัยเรื่องของการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน
ส่วนในด้านราคาทองคำไทยยังคงไม่ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากยังคงโดนกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าแตะระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองของไทย ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 40,400-40,900 บาท และในช่วงท้ายปียังคงเชื่อว่าราคาทองตลาดโลก จะมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นที่เป้าหมาย 2,600-2,700 เหรียญ ส่วนในด้านของราคาทองคำไทย ยังคงต้องจับตาดูค่าเงินบาทอีกทีเนื่องจากความแข็งค่ากดดันทองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่ 42,500-43,500 บาท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
