“สาธิต” ยอม รับคลัสเตอร์รอบใหม่ หนักหนาสาหัส เร่งตรวจเชิงรุก ห่วงหลังสงกรานต์ยอดพุ่ง
นาย สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่แพร่กระจายในหลายพื้นที่ ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยยอมรับว่า หนักหนาสาหัสอยู่พอสมควร ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็กำลังติดตามไล่หลังสอบสวนโรคอย่างเข้มข้น พร้อมรณรงค์ ทำความเข้าใจกับประชาชน ระมัดระวังป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดในวงกว้าง
แต่สิ่งสำคัญต้องเร่งตรวจเชิงรุกเพื่อหาผู้ติดเชื้อแล้ว และไม่มีอาการ ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ค่อยกังวลการติดเชื้อในต่างจังหวัด เพราะยังมีมาตรการติดตามตัวได้ไม่ยาก แต่เป็นห่วงในโซนกรุงเทพมหานคร ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา ผู้ติดเชื้อและไม่แสดงอาการว่าอยู่ที่ไหน จะได้นำเข้าสู่ระบบการรักษาและกักตัว
สำหรับในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางกระทรวงสาธารณสุข มีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอมาตรการต่างๆ ไปให้ทาง ศบค. แล้ว ส่วนจะมีอะไรเข้มข้นหรือไม่ ต้องให้ ศบค. พิจารณา เพราะต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายด้วย
ขณะเดียวกัน นายสาธิต ยอมรับว่า ส่วนตัวกังวลถึงยอดผู้ติดเชื้อที่อาจจะเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ เนื่องจากมีคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ แต่มองว่าเป็นเรื่องดี ที่เกิดเรื่องนี้ก่อนสงกรานต์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความระมัดระวังตัวและป้องกันตัวเองมากขึ้น ถือเป็นมุมบวก
“ศักดิ์สยาม” เผย ไข้ลดลงแล้ว โต้ ส.ส.ดาวฤกษ์ จี้ ให้เปิดไทม์ไลน์ ขอให้ สธ. เป็นผู้แถลง
นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงอาการล่าสุดหลังเข้ารับการรักษา ที่ โรงพยาบาลใน จ.บุรีรัมย์ หลังตรวจพบเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้ ไข้ลดลง และอยู่ในอุณหภูมิปกติแล้ว
ส่วนกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก ของ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และแกนนำ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ ได้โพสต์ข้อความเรียกร้องให้มีการเปิดไทม์ไลน์ ของนายศักดิ์สยาม นั้น ชี้แจงว่า ส่วนตัวได้มีการให้ข้อมูลไทม์ไลน์ ของตนเองต่อแพทย์ไปทั้งหมดแล้ว ขอให้ทางกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แถลง หลังตรวจสอบโรคตามขั้นตอนปฏิบัติ
รองประธาน คสรท. ห่วง สงกรานต์ ทำยอดติดโควิดพุ่ง ไทยเกิดวิกฤตระบาดระลอก 3 ชี้ยังไม่จำเป็นระงับการเดินทาง
นายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย หรือ คสรท. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กรณีการพบผู้ติดเชื้อโควิด ทั้งในระดับนักการเมือง ดารา นักร้อง ลุกลามไปในหลายพื้นที่ และไม่อีกกี่วันจะถึงเทศกาลวัน สงกรานต์ แล้ว โดยคนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดและท่องเที่ยวจำนวนมาก
ส่วนตัวมองว่า การเกิดโรคระบาดในระลอกที่ 3 อาจเกิดขึ้นได้ แต่การจำกัดเดินทางในช่วงหยุดยาวอาจเร็วเกินไป เพราะบางคนอาจวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยการป้องกันที่ดีที่สุดประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา รักษาความสะอาด
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคาดหวังว่า สถานการณ์จะไม่กลับไปเลวร้ายเหมือนในรอบแรก และเรื่องการเปิดประเทศรัฐบาลจะดำเนินการได้ตามแผน เพราะถ้าหากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยแล้ว เศรษฐกิจจะกลับมาคึกคัก ธุรกิจจะเดินหน้าต่อไปได้ และการจ้างงานจะยังดำเนินต่อไป
ผู้ว่าฯสมุทรปราการ สั่งคุมเข้มสถานบันเทิง ป้องกันโควิด ขณะเตรียมยกเลิกรดน้ำขอพรพ่อเมือง ช่วงสงกรานต์หวั่นแพร่เชื้อ
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการคุมเข้มป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าจากการพบผู้ป่วยโควิด-19 หลายรายที่มีความเชื่อมโยงมาจาก คลัสเตอร์สถานบันเทิง ที่กรุงเทพฯนั้น ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค(ศปก.) ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล รวมไปศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคเทศบาลนคร/เทศบาลเมือง จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตรา คุมเข้มสถานบันเทิง ในพื้นที่ให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามกฎระเบียบที่วางไว้
ส่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น จะมีการประชุมในวันที่ 9 เมษายน เพื่อกำหนดมาตรการต่างๆอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งส่วนตัวแล้วจะให้ยกเลิกประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดวันสงกรานต์ ในปีนี้ เพราะว่าโควิดระลอกใหม่นี้ส่วนใหญ่ไม่ปรากฏอาการ ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบได้ว่าใครจะมีเชื้ออยู่ในตัวหรือไม่ เพื่อความไม่ประมาทจึงต้องยกเลิกกิจกรรมนี้ไปก่อน
บช.น. คุมเข้ม สถานประกอบการ หลัง กทม. สั่งปิด 3 เขต เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ขู่พบฝ่าฝืนฟันผิดเด็ดขาด
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการดูแลและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 หลังกรุงเทพมหานคร สั่งปิดสถานบริการ ใน 3 เขต ได้แก่ เขตวัฒนา คลองเตย และบางแค เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากว่า ในส่วนของตำรวจจะร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต ลงพื้นที่สุ่มตรวจแต่ละเขตตามสถานบริการ ซึ่งตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้ว ว่าปฏิบัติตามมาตรการของ กทม.อย่างเคร่งครัด หรือมีรายใดฝ่าฝืนหรือไม่
ส่วนตำรวจ ได้สั่งการให้แต่ละสถานีเพิ่มความเข้มตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในส่วนของการให้บริการประชาชน โดยให้นำแผ่นกั้นกลับมาใช้ จัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง โดยตำรวจที่ติดเชื้อขณะนี้ จากรายงานพบว่ามีตำรวจ สน.ทองหล่อ ติดเชื้อ 9 นาย อยู่ระหว่างกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการอีก 22 นาย และมีที่ สน.ห้วยขวาง ส่วนหนึ่งตรวจเชื้อแล้วยังไม่พบ และมีอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างกักตัวเพื่อรอรับการตรวจหาเชื้อ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากผู้ใช้บริการและพนักงานจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่เดินทางมายังพื้นที่ห้วยขวางต่อเนื่องกัน
รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า หาก ศบค. ประกาศใช้กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมสีแดง ตำรวจก็จะตรวจสอบมาตรการที่จะใช้อีกครั้ง ส่วนเขตอื่นนอกเหนือจากวัฒนา คลองเตย และบางแค ที่สถานบริการยังสามารถเปิดได้อยู่ ก็จะตรวจสอบความเข้มข้นของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและควบคุมให้เปิดตามเวลาที่ กทม. กำหนด มีการวัดอุณหภูมิผู้ใช้บริการ จัดเจลแอลกอฮอล์ และมีมาตรการเว้นระยะห่าง
อย่างไรก็ตาม หากพบผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืน ต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นความผิดลักษณะใด หากเป็นความผิดเล็กน้อยก็จะใช้วิธีการตักเตือน แต่หากพบว่าจงใจทำการฝ่าฝืน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้จากกาสรลงพื้นที่ตรวจสอบยังไม่พบว่ามีผู้ประกอบการรายใด ฝ่าฝืนคำสั่งของกรุงเทพมหานคร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
