มนต์ขลังฟุตบอล “คิงส์คัพ” ตำนาน “สนามแตก” จะกลับมาอีกครั้ง

กีฬาขั้นเทพ วันนี้จะพาไปดูความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ฟุตบอลที่เก่าแก่รายการหนึ่งของทวีปเอเชีย โดยในในปีนี้จังหวัดสงขลาได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11 และ 14 ตุลาคม 2567 ณ สนามติณสูลานนท์

 

 

 

 

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันในระดับ FIFA International A Match โดยมี 4 ทีม เข้าร่วม ประกอบด้วย ทีมชาติไทย อันดับ 101 ของโลก และ แชมป์สูงสุด 15 สมัย , ทีมชาติซีเรีย อันดับ 93 ของโลก, ทีมชาติทาจิกิสถาน อันดับ 103 ของโลก และ แชมป์เมื่อปี 2022 และ ทีมชาติฟิลิปปินส์ อันดับ 147 ของโลก

 

 

 

โดยทีมชาติไทย ภายใต้การนำทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น จะลงสนามนัดแรกเป็นคู่ที่สอง พบกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 20.00 น. ส่วนคู่แรกเวลา 16.30 น. ซีเรีย พบ ทาจิกิสถาน หาผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ส่วนผู้แพ้ จะแข่งขันกันในนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกัน

 

 

ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ จัดมาทั้งหมด 50 ครั้งแล้ว ซึ่งทุกครั้งก็เต็มไปด้วยมนต์ขลัง และยังเคยสร้างประวัติศาสตร์ปรากฏการณ์สนามแตกมาแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2536 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 24 ทีมชาติไทยส่งเข้าแข่งขัน 2 ทีม ทีมชาติชุดใหญ่อยู่สาย เอ นำโดย”เพชฌฆาตหน้าหยก”ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานดาวยิงตลอดกาลของสยามประเทศ ขณะที่ทีมชาติชุดเล็กอยู่สาย บี เป็นทีมแห่งอนาคตฉายา “ดรีมทีม” นำโดย”ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ศูนย์หน้าดาวรุ่งจอมตีลังกา

 

 

 

นัดประวัติศาสตร์สนามศุภชลาศัย สังเวียนฟาดแข้งแทบแตก เมื่อแฟนบอลหลั่งไหลเข้ามาเชียร์นักเตะไทยที่ได้เข้ารอบตัดเชือกทั้งชุดใหญ่และชุดเล็ก จนเนืองแน่นทุกที่นั่งทุกตารางนิ้วบนอัฒจันทร์ คลื่นคนดูหลายหมื่นที่ยัดทะนานอยู่ในสนามล้นทะลักลงลู่วิ่งเบียดเสียดกันเต็มขอบสนามทั้ง 4 ด้าน รวมๆแล้ววันนั้นสนามกีฬาแห่งชาติมีแฟนบอลเข้าไปล้นความจุนับแสนคน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยวันนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2536

 

 

 

 

 

ทีมชาติไทยชุดใหญ่ตัดเชือกทีมชาติเกาหลีใต้ ขณะที่ทีมชาติชุดดรีมทีมตัดเชือกทีมชาติจีนแต่กว่านักฟุตบอลจะลงสู่สนามได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเคลียร์พื้นที่นับชั่วโมง การแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกเร้าใจ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ชนะเกาหลีใต้ 1-0 ด้วยประตูชัยสุดสวยของ”เพชฌฆาตหน้าหยก”ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เข้าไปชิงถ้วยพระราชทานกับทีมชาติจีนที่เฉือนชนะทีมชาติไทยชุดดรีมทีม 2-1

 

 

 

ปีต่อมาทีมชาติไทยมาสร้างปรากฏการณ์สนามแตกอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2537 เป็นการแข่งขัน ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 25 รอบชิงชนะเลิศ ณ สนามศุภชลาศัยฯ ทีมชาติไทย (บี) หรือชุดดรีมทีม ที่ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มีกูรูฟุตบอลเมืองไทยหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าทีมชุดนี้ ของบิ๊กหอย ธวัชชัย สัจจกุล คงจอดแค่รอบแรก เพราะนักเตะชุดนี้ เต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งทั้งทีม โดยในรอบชิง เข้าไปพบกับ ทีมแคว้นเวสต์ฟาเล่น จากเยอรมัน ซึ่งขนผู้เล่นดังจากบุนเดสลีกา มาถึง 7 คน ท่ามกลางแฟนลูกหนังกว่า 20,000 คนที่แออัดยัดเยียดเข้ามาชมในสนาม

 

 

 

แต่นักเตะดรีมทีมชุดนี้ กลับสร้างตำนานที่ไม่มีใครคาดคิด หลังจากหักปากเซียน ด้วยการเอาชนะทีมจากเยอรมัน ไปได้ 4-0 คว้าถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 25 มาครองได้สำเร็จ พร้อมทั้งการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของบรรดาดาวรุ่ง เช่น วัชรพงษ์ สมจิตร, พัฒธนพงศ์ ศรีปราโมช, โชคทวี พรหมรัตน์, ตะวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน, ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ฯลฯ ที่กลายมาเป็นนักเตะแกนหลักสำคัญของทีมชาติไทย ในทศวรรษต่อมา

 

 

 

และบรรยากาศเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าพี่น้องชาวสงขลาทุกคนกำลังรอคอยการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้นี้ เพราะนับตั้งแต่เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ในปี พ.ศ. 2541 นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี ที่ ฟุตบอลชาติไทยชุดใหญ่ กลับมาเยือนสนามที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อีกครั้ง เราหวังว่าจะได้เห็นบรรยากาศสนามแตก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และ กลับมาคว้าแชมป์ คิงส์คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ณ สนามแห่งนี้ให้จงได้

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews